เปิดตัวสถานีบริการไฮโดรเจนในยุโรปโดยฟิลิปส์ สตาร์ค (Philippe Starck) นักออกแบบชื่อดังชาวฝรั่งเศส
ฟิลิปส์ สตาร์ค (Philippe Starck) สถาปนิกและนักออกแบบอุตสาหกรรมชาวฝรั่งเศส เปิดตัวสถานีบริการไฮโดรเจนสำหรับรถยนต์พลังงานไฮโดรเจนในยุโรป
แม้ว่ารถยนต์พลังงานไฮโดรเจนจะไม่ได้รับความนิยมเท่ากับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) ในปัจจุบัน แต่ในยุโรปพลังงานไฮโดรเจนยังคงอยู่ในกระแสการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด มีการเปิดตัว เอชอาร์เอส (HRS: Hydrogen Refueling Solutions) สถานีบริการเชื้อเพลิงไฮโดรเจนแบบครบวงจร ที่จับมือกับฟิลิปส์ สตาร์ค (Philippe Starck) ในการออกแบบสถานีให้ล้ำสมัยและใช้งานได้จริง
ข้อมูลสถานีบริการเชื้อเพลิงไฮโดรเจนของฟิลิปส์ สตาร์ค
สถานีบริการจะใช้ชื่อแบรนด์ว่า เอชอาร์เอส บาย สตาร์ค (HRS by Starck) ประกอบไปด้วย 2 ส่วนหลัก ได้แก่ ส่วนหัวจ่ายที่ให้รถยนต์พลังงานไฮโดรเจนเข้ามาใช้บริการเติมเชื้อเพลิงไฮโดรเจน กับส่วนเก็บเชื้อเพลิงไฮโดรเจนสำหรับสำรองเชื้อเพลิงไฮโดรเจนของสถานีบริการ
โดยจุดเด่นสำคัญอยู่ที่ส่วนหัวจ่าย ซึ่งรองรับการเติมเชื้อเพลิงไฮโดรเจนด้วยอัตรา 14, 40 หรือ 80 กิโลกรัมต่อชั่วโมง ขึ้นอยู่กับรุ่นหัวจ่ายที่ให้บริการ ซึ่งจ่ายไฮโดรเจนในรูปแบบบีบอัดที่แรงดัน 350 บาร์ หรือ 700 บาร์ รองรับแหล่งไฮโดรเจนจากถังเก็บแบบอัดแรงดัน (Pressurised storage) ระบบเคมีจากการแยกน้ำด้วยไฟฟ้า (Electrolyser) หรือท่อน้ำส่งและไฮโดรเจนชีวภาพด้วย
แผนการพัฒนาสถานีบริการเชื้อเพลิงไฮโดรเจนของฟิลิปส์ สตาร์ค
เป้าหมายของ HRS คือการพิสูจน์ว่าเชื้อเพลิงพลังงานไฮโดรเจนเป็นแหล่งพลังงานสะอาดที่สามารถใช้งานได้จริงและมอบประสบการณ์การใช้งานไม่ต่างจากพลังงานน้ำมัน ตามเป้าหมายการลดการปล่อยคาร์บอนและการเพิ่มสัดส่วนการใช้งานพลังงานสะอาด ซึ่งเป็นวาระร่วมกันในการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือ COP28 ในช่วงต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ฟิลิปส์ สตาร์คยังได้ร่วมออกแบบหัวจ่ายเชื้อเพลิงแบบใหม่ให้กับ HRS ให้มีส่วนที่โปร่งแสงเพื่อให้เห็นกระบวนการระหว่างเติมเชื้อเพลิงไฮโดรเจนกับตัวยานพาหนะ เพื่อสื่อถึงความสะอาดและบริสุทธิ์ของพลังงานไฮโดรเจน โดยตัวต้นแบบที่ฟิลิปส์ สตาร์คออกแบบได้นำไปจัดแสดงในงานเอกซ์โป ซิตี้ ดูไบ (Expo City Dubai) ที่กำลังจัดขึ้นระหว่างเดือนธันวาคม จนถึงเดือนมกราคมปีหน้า และจะนำไปติดตั้งในสถานีบริการทั้งที่เปิดตัวแล้วและวางแผนก่อสร้างในปี 2024 ต่อไป
ที่มาข้อมูล Yanko Design
ที่มารูปภาพ Starck
ข่าวแนะนำ