ฝรั่งเศสซ่อมส่วนปลายยอดมหาวิหารนอเทรอดาม (Notre-Dame) เสร็จแล้ว ก่อนเปิดอีกครั้งสิ้นปี 2024

ฝรั่งเศสติดตั้งชิ้นส่วนปลายยอด (Spire) ของมหาวิหารนอเทรอดามแห่งปารีสเสร็จสิ้นก่อนการเปิดตัวใหม่อีกครั้งในวันที่ 8 ธันวาคม 2024 นี้

มหาวิหารนอเทรอดามแห่งปารีส (Notre-Dame de Paris) เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของโลกที่เกิดอุบัติเหตุไฟไหม้บางส่วนของมหาวิหารในปี 2019 ที่ผ่านมา ซึ่งรวมไปถึงส่วนปลายยอด (Spire) ของมหาวิหาร ที่เป็นงานศิลปะอายุนับร้อยปีอันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ด้วย

และแม้ว่าจะไม่สามารถกู้คืนมาได้ แต่ทางการฝรั่งเศสก็ได้เลือกที่จะสร้างปลายยอดขึ้นมาใหม่ด้วยหลักออกแบบเดียวกันทั้งหมด และสามารถติดตั้งส่วนปลายด้วยเทคโนโลยีปัจจุบันได้เป็นผลสำเร็จก่อนการเปิดตัวเกือบ 1 ปี ข้างหน้านี้

การออกแบบส่วนปลายของมหาวิหารนอเทรอดาม

ส่วนปลายยอดของมหาวิหารที่โดนไฟไหม้ในปี 2019 นั้น เป็นผลงานการออกแบบในปี 1859 ของ วียอแล-เลอ-ดุก (Viollet-le-Duc) สถาปนิกชาวฝรั่งเศสในยุคคริสต์ศตวรรษที่ 19 ที่โดดเด่นด้านงานฟื้นฟูและบูรณะสถาปัตยกรรมสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ โดยยอดปลายที่ วียอแล-เลอ-ดุก ออกแบบนั้นทำจากไม้โอ๊คบ่มแชมเปญแกะสลัก มีความสูง 96 เมตร และมีน้ำหนักมากกว่า 250 ตัน

โดยทางการฝรั่งเศสตัดสินใจใช้เทคโนโลยีในยุคปัจจุบันในการถอดแบบและสร้างส่วนปลายยอดตามที่ วียอแล-เลอ-ดุก เคยออกแบบไว้ทั้งหมดด้วยการให้คอมพิวเตอร์ เป็นการถอดแบบจากข้อมูลต่าง ๆ รวมถึงภาพถ่ายเพื่อย้อนรอยการออกแบบ ใช้เวลาคำนวณกว่า 1,600 ชั่วโมง ซึ่งได้ผลลัพธ์ที่ถอดแบบมากกว่า 320 รูปแบบ ก่อนตัดสินใจเลือกเพียงแบบเดียว

การสร้างและการติดตั้งส่วนปลายของมหาวิหารนอเทรอดาม

ปลายยอดรูปแบบใหม่ที่สร้างขึ้น เป็นการนำไม้โอ๊คกว่า 1,000 ชิ้น ที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 100 ปี ทั่วฝรั่งเศส มาประกอบเข้าด้วยกันใหม่ให้มีทรงเดิมกับที่ วียอแล-เลอ-ดุก เคยออกแบบไว้ โดยยอดมหาวิหารส่วนใหม่จะมีอยู่ด้วยกัน 8 หน้า แต่ละหน้าตกแต่งด้วยลายดอกไม้ (floral motif) กว่า 200 ลวดลาย พร้อมสลักปลายแหลม (Pinnacle) 16 ปลาย รูปปั้นปนาลี หรือการ์กอยล์ (Gargoyle) อีก 32 ตัว รวมไปถึงดอกจิกสี่แฉก (Quatrefoil) อีกหน้าละ 8 ใบ

โดยการผลิตจะเกิดขึ้นในโรงงานที่แคว้นลอแรน (Lorraine) ทางตะวันออกเฉียงเหนือของฝรั่งเศส ก่อนส่งกลับมาติดตั้งในพื้นที่ ทั้งนี้ การติดตั้งปลายยอดของมหาวิหารต้องใช้นั่งร้านต่อสูงขึ้นไปจากส่วนบนของอาคารกว่า 48 ชั้น คิดเป็นนั่งร้านที่มีน้ำหนักกว่า 600 ตัน โดยการติดตั้งเริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน และเสร็จสิ้นในวันที่ 8 ธันวาคมที่ผ่านมา และจะเปิดตัวอีกครั้งตามกำหนดการในวันที่ 8 ธันวาคม 2024 ซึ่งเป็นที่น่าเสียดายว่าการเปิดตัวนั้นผ่านพ้นช่วงการจัดงานมหกรรมโอลิมปิกฤดูร้อน 2024 ไปแล้ว ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 26 กรกฎาคม จนถึงวันที่ 11 สิงหาคม ในปีเดียวกัน