ท้าชน Tesla Bot ! Apollo หุ่นยนต์คล้ายมนุษย์ที่สามารถยกของหนักได้ถึง 25 กิโลกรัม

สนามแข่งของตลาดหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ หรือหุ่นยนต์คล้ายมนุษย์ทวีความร้อนแรงมากขึ้น เมื่อล่าสุด แอปโทรนิก (Apptronik) บริษัทผู้พัฒนาหุ่นยนต์จากรัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้เปิดตัวหุ่นยนต์คล้ายมนุษย์รุ่นใหม่ในชื่อ อพอลโล (Apollo) พร้อมชูความสามารถในการบรรทุกสิ่งของที่โดดเด่น เน้นการใช้งานในอุตสาหกรรมโรงงานต่าง ๆ และอาจกลายมาเป็นแรงงานพันธุ์ใหม่ในอนาคต

หุ่นยนต์ที่จะมาทำงานจำเจแทนมนุษย์

หุ่นยนต์อพอลโลมีความสูงอยู่ที่ 173  เซนติเมตร และหนัก 73 กิโลกรัม สามารถทำงานได้ต่อเนื่องนาน 4 ชั่วโมงต่อการเปลี่ยนแบตเตอรี่หนึ่งชุด บริเวณปากและหน้าอกมีจอแอลอีดี (LEDs) สำหรับแสดงสถานะการทำงานและแสดงข้อความโต้ตอบกับผู้ใช้งาน นอกจากนี้ยังมีการติดตั้งระบบควบคุมพื้นที่การทำงานเพื่อไม่ให้เป็นอันตรายกับมนุษย์ โดยหุ่นยนต์จะกำหนดรัศมีโดยรอบจากจุดที่ยืนอยู่ และตรวจจับพื้นที่หากมีคนหรือสิ่งของที่เคลื่อนไหวเข้ามาใกล้ ก็จะหยุดนิ่งทันทีเพื่อป้องกันการชน 

ชูจุดเด่นยกของหนักได้มากกว่า Tesla Bot

ส่วนจุดเด่นที่ทางบริษัทภูมิใจนำเสนอคือความสามารถในการยกของหนักที่ทำได้มากถึง 25 กิโลกรัม ซึ่งมากกว่าที่หุ่นยนต์คู่แข่งอย่าง เทสลาบอท (Tesla Bot) หรืออีกชื่อคือ ออปติมัส (Optimus) ของค่ายรถยนต์ดังอย่างเทสลา (Tesla) สามารถทำได้ที่ประมาณ 20 กิโลกรัมเท่านั้น 

โดยบริษัทได้ปล่อยวิดีโอสาธิตที่แสดงการทำงานของอพอลโล ตั้งแต่การยกกล่องและลังต่าง ๆ ขึ้นมา จากนั้นก็เคลื่อนย้ายกล่องและลังต่าง ๆ ไปรอบ ๆ ซึ่งตัวอย่างการนำไปใช้อาจจะเป็นการใช้อพอลโลช่วยขนกล่องพัสดุเข้ารถตู้ขนส่ง หรือการหยิบกล่องสต็อกสินค้ามาวางซ้อนกันบนสายพาน หรือการเคลื่อนย้ายเครื่องมือและวัสดุรอบ ๆ ไซต์งาน เป็นต้น

นอกจากนี้เมื่อเทียบกับการใช้แรงงานมนุษย์แล้ว หุ่นยนต์คล้ายมนุษย์อย่างอพอลโล ยังสามารถใช้แรงงานยกของหนักได้ทั้งวัน โดยที่ไม่ต้องกังวลเรื่องอาการบาดเจ็บต่อร่างกายาอีกด้วย ซึ่งเป็นสิ่งที่ เจฟ คาร์เดนเนส (Jeff Cardenas) ซีอีโอของบริษัท แอปโทรนิก (Apptronik) มองว่าเป็นจุดเด่นที่สำคัญ ที่จะมาตอบโจทย์การใช้แรงงานในยุคสมัยใหม่ที่มีความปลอดภัยต่อสุขภาพของแรงงานมนุษย์มากยิ่งขึ้น

ใช้งานแบบแยกส่วนกันได้

สำหรับการใช้งานหุ่นยนต์อพอลโล ผู้ใช้งานยังสามารถเลือกซื้อเป็น "โมดูล" หรือชิ้นส่วนการทำงานแต่ละส่วนของหุ่นยนต์ เพื่อนำไปปรับใช้ให้เหมาะสมกับลักษะงานที่ต้องการได้ เช่น สามารถสั่งซื้อหุ่นยนต์อพอลโลแบบเต็มตัว หรือจะปรับช่วงล่างจากขาสองข้างให้กลายเป็นล้อ หรือจะติดตั้งหุ่นยนต์อพอลโลแบบติดตั้งอยู่กับที่ ซึ่งสามารถต่อเข้ากับเครื่องจักรโดยตรงในไซต์งานที่ต้องการได้ 

รอการเปิดเผยความสามารถอื่น ๆ

อย่างไรก็ตามถึงแม้บริษัทจะชูความสามารถที่โดดเด่นในเรื่องของการยกของหนัก แต่บริษัทก็ยังไม่ได้ปล่อยรายละเอียดของความสามารถอื่น ๆ เช่น ระบบประมวลผล การควบคุม หรือการสั่งการระบบปฏิบัติการต่าง ๆ ออกมาให้เห็นแต่อย่างใด ซึ่งถ้านำมาเทียบกันกับหุ่นยนต์คู่แข่งของบริษัทต่าง ๆ เช่น เทสลาบอท (Tesla Bot) เองที่ได้มีการระบุความสามารถขั้นสูงอื่น ๆ ออกมาแล้ว เช่นการใช้ระบบประมวลผลตัวเดียวกันกับผู้ช่วยขับรถในโหมด Autopilot  ของ Tesla จึงถือว่าเป็นจุดที่บริษัทอาจจะต้องพัฒนาต่อไป

โดยตอนนี้ บริษัท แอปโทรนิก (Apptronik)  กำลังมองหาพันธมิตรเพื่อพัฒนาการปรับใช้ฮาร์ดแวร์สำหรับสั่งหุ่นยนต์ในการจัดการกับปัญหาต่างๆ และเพิ่มขีดความสามารถของมันให้มากขึ้น โดยจากข้อมูลของ เทคครันช์ (TechCrunch) เว็บไซต์ที่มุ่งเผยแพร่ข่าวสารเกี่ยวกับเทคโนโลยีจากอเมริการะบุว่าตอนนี้บริษัทตั้งเป้าที่จะนำเสนอหุ่นยนต์อพอลโลเวอร์ชันใช้งานจริงภายในสิ้นปี 2024 และจะวางจำหน่ายเชิงพาณิชย์ให้ได้ภายในปี 2025 นี้

ข้อมูลจาก newatlas, techcrunch,  apptronik