เมืองเบียร์ผุด “โปรเจ็คเบอร์ลิน” เปลี่ยนของเสียมนุษย์เป็นพลังงานความร้อน

เครื่องให้ความร้อน เป็นหนึ่งในนวัตกรรมที่ประเทศเมืองหนาวขาดไม่ได้ เพราะต้องทำให้อุณหภูมิภายในบ้านหรืออาคารอบอุ่นอยู่เสมอ แต่ขณะเดียวกัน ก็ต้องแลกกับการใช้ไฟฟ้าจำนวนมาก เพื่อสร้างทำให้แต่ละบ้านนั้นมีอุณหภูมิสูงขึ้นสู้กับสภาพอากาศภายนอกบ้านเรือน 

เมืองเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนีจึงได้โครงการที่ชื่อว่า “โปรเจ็คเบอร์ลิน (Berlin Project)” ขึ้นมา ซึ่งอาศัยของเสียจากร่างกายมนุษย์ที่อยู่ในท่อระบายน้ำขนาดใหญ่ใต้เมือง เพื่อนำมาแปลงเป็นพลังงานความร้อน 

ดึงพลังงานความร้อนจากของเสียมนุษย์มาใช้งาน 

คำถามคำสัญ คือพวกเขาทำได้อย่างไร ? โดยวิธีการ ใช้แผ่นสีเงินที่เรียกว่า อุปกรณ์แลกเปลี่ยนความร้อน (Heat Exchanger Module) มาติดตั้งไว้ที่พื้นภายในท่อระบายน้ำ เพื่อให้ของเสียในท่อไหลผ่าน ซึ่งมันจะทำหน้าที่ดูดซับความร้อนจากของเสีย

โดยอุปกรณ์ดังกล่าว จะทำหน้าที่ดูดซับความร้อนจากของไหลที่มีอุณหภูมิสูงมากกว่าตัวมันเอง ในทางกลับกัน มันก็จะถ่ายเทความร้อนให้กับของไหลที่อุณหภูมิต่ำกว่าด้วย ดังนั้นในฤดูหนาว ท่อแห่งนี้จะอุ่นไปด้วยพลังงานความร้อนจากอุปกรณ์แลกเปลี่ยนความร้อน

ส่งพลังงานความร้อนผ่านท่อขนาดเล็ก 

ในส่วนของพลังงานความร้อนที่ได้จากท่อระบายน้ำแห่งนี้จะถูกส่งไปตามอาคารต่าง ๆ ผ่านท่อขนาดเล็ก โดยมันสามารถทำความร้อนให้พื้นที่ได้มากถึง 1 ล้านตารางฟุต หรือประมาณ 304 ล้านตารางเมตร เทียบเท่ากับลานจัตุรัสอเล็คซันเดอร์พลัทซ์ (Alexanderplatz) ในกรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี ซึ่งสามารถแทนที่เครื่องปั๊มความร้อนขนาดใหญ่ อันเป็นอุปกรณ์ที่มักใช้กันในสำนักงานหรืออาคารใหญ่ ๆ ในประเทศที่อากาศหนาว เพื่อทำให้อุณหภูมิภายในตึกอุ่นขึ้น

สำหรับการติดตั้งโปรเจ็คนี้จะแล้วเสร็จในเดือนเมษายน 2024 ซึ่งวิศวกรของโครงการชี้ว่า ในอนาคตมันจะสามารถส่งพลังงานความร้อนให้กับเมืองอื่น ๆ ในประเทศเยอรมนีด้วย

ข้อมูลและภาพจาก Reuters