TNN เหม่อ ! Google เตือนลูกจ้างอย่าวางใจ Google Bard ของตัวเองและแชตบอตใด ๆ !

TNN

Tech

เหม่อ ! Google เตือนลูกจ้างอย่าวางใจ Google Bard ของตัวเองและแชตบอตใด ๆ !

เหม่อ ! Google เตือนลูกจ้างอย่าวางใจ Google Bard ของตัวเองและแชตบอตใด ๆ !

เหม่อ ! กูเกิล (Google) ออกโรงเตือนลูกจ้างระวังการใส่ข้อมูลลับและส่วนตัวลงในแชตบอตทุกประเภท รวมถึง กูเกิลบาร์ด (Google Bard) แชตบอตที่กูเกิลเป็นผู้สร้างขึ้นมาเอง

แชตบอต (Chatbot) หรือบริการโต้ตอบแบบข้อความกับปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอ (AI) กำลังได้รับความนิยมพุ่งสูง แต่ก็มีหลายฝ่ายออกมาเตือนว่าให้ระวังความปลอดภัยด้านข้อมูลความลับและข้อมูลส่วนตัวรั่วไหล ไม่เว้นแม้แต่กูเกิล (Google) ก็ออกมาเตือนพนักงานให้ระวังเช่นกัน ไม่เว้นแม้แต่กูเกิล บาร์ด (Google Bard) แชตบอตที่กูเกิลเป็นผู้สร้างขึ้นมาเอง !


ผู้ให้บริการ Chatbot เตือนให้ระวัง Chatbot

แม้ว่าจะดูน่าประหลาดใจ แต่มาตรการดังกล่าวทางอัลฟาเบต (Alphabet) หรือบริษัทแม่ของกูเกิลนั้นย้ำว่าเป็นการเตือนเพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวขององค์กรและผู้ใช้งานทุกคน โดยการเตือนวิศวกรโปรแกรมภายในองค์กรมีขึ้นตั้งแต่การทดสอบภายในก่อนเปิดตัวบาร์ดในเดือนกุมภาพันธ์


แต่ข่าวล่าสุดที่สำนักข่าวรอยเตอร์ส (Reuters) รายงานเมื่อ 16 มิถุนายนเป็นการประกาศใหม่ภายในองค์กรไปยังพนักงานในทุกภาคส่วน ซึ่งภายหลังได้รับการยืนยันจากบริษัทว่าเป็นความจริง โดยตอนนี้บาร์ดได้เปิดบริการในกว่า 180 ประเทศ ใน 40 ภาษา ซึ่งต่างก็มีการแจ้งถึงการระวังการให้ข้อมูลส่วนบุคคลก่อนใช้บริการด้วยเช่นกัน


ทั้งนี้ บาร์ด, แชตจีพีที (ChatGPT) และแชตบอตอีกหลายตัวมีการเข้าถึงฐานข้อมูลสาธารณะ (Public database) เพื่อใช้เป็นตัวปรับปรุงการโต้ตอบและการแสดงข้อมูลแก่ผู้ใช้ ซึ่งทั้งกูเกิลและโอเพ่นเอไอ (OpenAI) ที่ดูแลแชตจีพีทีต่างเน้นย้ำให้ผู้ใช้ระวังการให้ข้อมูลส่วนตัวกับตัวแชตบอตเพราะข้อมูลอาจจะถูกนำไปรวมกับฐานข้อมูลสาธารณะได้


มาตรการรับมือ AI และ Chatbot ที่เกี่ยวข้อง

การออกมาเตือนของกูเกิลในครั้งนี้ได้กลายเป็นบรรทัดฐานด้านความปลอดภัยไซเบอร์ใหม่อีกครั้ง ซึ่งสอดคล้องกับข่าวการเตรียมมาตรการรับมือเอไอในหลากหลายบริษัทชั้นนำทั่วโลก เช่น ซัมซุง (Samsung) ค่ายสมาร์ตโฟนและบริษัทไอทีชื่อดัง, แอมะซอน (Amazon) แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ (e-commerce) ระดับโลก หรือแม้แต่ธนาคารดอยช์แบงก์ (Deutsche Bank) ธนาคารที่ใหญ่ที่สุดของเยอรมนี


อย่างไรก็ตาม จากการสำรวจแรงงาน พบว่าแรงงานระดับสูงมีการใช้แชตจีพีทีช่วยทำงานโดยไม่แจ้งให้ที่ทำงานทราบกว่าร้อยละ 43 จากการสำรวจแรงงานระดับสูงในบริษัทชั้นนำของสหรัฐฯ กว่า 12,000 คน ดังนั้น มาตรการรับมือการใช้เอไออาจจำเป็นต้องรัดกุมและมีความชัดเจนมากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน 


ก่อนหน้านี้ เจฟฟรีย์ ฮินตัน (Geoffrey Hinton) บุคคลที่ได้รับการขนามนามว่าเป็น "เจ้าพ่อ AI"  (The Godfather of AI) ได้ลาออกจากกูเกิล (Google) หลังทำงานร่วมพัฒนาปัญญาประดิษฐ์มาตั้งแต่ปี 2012 และออกสื่อเพื่อเตือนว่าเอไอจะฉลาดกว่ามนุษย์ในอีกไม่ถึง 30 ปี พร้อมชี้ความเสี่ยงหากไม่รับมือให้ทันด้วยเช่นกัน


ที่มาข้อมูลและรูปภาพ Reuters

ข่าวฮิตติดแท็ก

ข่าวแนะนำ