Facebook Instagram Twitter ประกาศบริการเสริม จ่ายเงินเพิ่มแลกความปลอดภัย?

ช่วงนี้บริษัทโซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่ อาจจะกำลังทยอยหารายได้เพิ่ม หลังเฟซบุ๊ก (Facebook) และ อินสตาแกรม (Instagram) ประกาศเก็บเงินค่าบริการเครื่องหมายยืนยันตัวตน ในขณะที่ทวิตเตอร์ (Twitter) ก็เตรียมยกเลิกการใช้งานฟรีของระบบยืนยันตัวตนแบบ 2 ชั้น ซึ่งหลายคนก็มองว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นมาจากการที่บรรดาบริษัทเทคยักษ์ใหญ่กำลังหาทางรอดจากวิกฤตเศรษฐกิจและการถูกตีตื้นจากคู่แข่งรายใหม่ ๆ

โดยความเคลื่อนไหวล่าสุดเป็นของทางฝั่งของเมตา (Meta) บริษัทแม่ของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เฟซบุ๊ก (Facebook) และ อินสตาแกรม (Instagram) ที่ประกาศเปิดบริการเมตา เวอร์ริฟายด์ (Meta Verified) จ่ายเงินค่าสมาชิกแบบยืนยันตัวตนด้วยบัตรประชาชน แลกเครื่องหมายถูกสีฟ้า (Blue Tick Verification) เพื่อยืนยันว่าเป็นบัญชีจริง ซึ่งข้อดีของบริการนี้ คือช่วยเพิ่มความปลอดภัย ป้องกันการโดนปลอมบัญชี เพิ่มยอดการมองเห็นโพสต์ และยังมีสิ่งที่หลายคนรอคอยมานาน ก็คือบริการติดต่อทีมงานเพื่อขอความช่วยเหลือโดยตรงได้ง่ายขึ้น สำหรับค่าใช้จ่ายสำหรับคนที่อยากมีเครื่องหมายติ๊กถูกสีฟ้า เริ่มต้นที่ 11.99 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 415 บาทต่อเดือน สำหรับการใช้งานบนเว็บไซต์ และ 14.99 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 515 บาท ต่อเดือน สำหรับการใช้งานบนแอปพลิเคชัน

ทวิตเตอร์ทำมาก่อน แต่ผลตอบรับรอบแรกไม่ดีนัก

ในขณะที่ทางฝั่งของทวิตเตอร์ (Twitter) ก็เคยมีบริการนี้ออกมาแล้วตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปี 2022 คือ ทวิตเตอร์ บลู (Twitter Blue) จ่ายเงิน 11 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 380 บาทต่อเดือน แลกเครื่องหมายยืนยันตัวตน แต่ก็โดนกระแสตีกลับ เนื่องจากมีผู้ใช้ที่ถือโอกาสจ่ายเงินแล้วอ้างตัวเป็นคนดังจนวุ่นวายไปทั่วแพลตฟอร์ม ซึ่งการแก้ปัญหานี้ ทางทวิตเตอร์ (Twitter) ก็เลยผุดไอเดียใหม่ เตรียมดึงบริการยืนยันตัวตนแบบ 2 ชั้น Two-factor authentication หรือ 2FA แบบผ่าน SMS ไปให้แค่สมาชิกบริการทวิตเตอร์ บลู (Twitter Blue) ใช้เท่านั้น เริ่มตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคมนี้ ส่วนคนทั่วไปที่ใช้ทวิตเตอร์แบบไม่มี ทวิตเตอร์ บลู (Twitter Blue) ก็ยังเล่นต่อไปได้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย เพียงแต่ว่าแต่ถ้าอยากได้ความปลอดภัย มั่นใจเพิ่ม ก็ต้องไปหาโหลดแอปรับรองความปลอดภัยแบบอื่นมาใช้แทน

สัญญาณสู้พิษเศรษฐกิจของบริษัทเทคโนโลยี?

ซึ่งการที่บริษัทโซเชียลยักษ์ใหญ่ ออกมาเก็บเงินกับบริการเสริมแบบนี้ อาจเป็นสัญญาณว่าบริษัทกำลังดิ้นรนเพื่อหารายได้ อย่างเมตา (Meta) ที่ก่อนหน้านี้ต้องปลดพนักงาน 11,000 คนออก ท่ามกลางเงินจากโฆษณาที่ลดลง ซึ่งบริการนี้ก็อาจจะช่วยเพิ่มรายรับส่วนหนึ่งได้ หรืออย่างทวิตเตอร์ (Twitter) ที่เคลมว่าเจอกลุ่มคนร้ายใช้การยืนยันตัวตนผ่าน SMS เยอะขึ้นเรื่อย ๆ เลยอาจจะอยากประหยัดค่าใช้จ่ายของบริษัท ในการส่ง SMS ยืนยันตัวตน ให้กับกลุ่มคนที่สมัครบริการเท่านั้น

อย่างไรก็ตามก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยคัดกรองคนที่มีเครื่องหมายติ๊กถูกสีฟ้าบนบัญชีด้วยเช่นกัน เพราะถ้าเป็นตัวจริง ส่วนใหญ่ก็จะยอมจ่ายเงิน เพื่อยืนยันตัวตนของตัวเอง แต่ทั้งหมดนี้ ก็ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์หลายเสียง เพราะบางคนก็มองว่า ระบบรักษาความปลอดภัย ก็เป็นสิทธิพื้นฐานที่ควรได้ แต่บางส่วนก็มองว่าอาจจะมีคนที่ยินดีจ่ายเงิน เพิ่มเพื่อความสบายใจมากขึ้น

ข้อมูลจาก tnnthailand, theguardian, bbc, reuters, reuters