TNN ไมโครซอฟท์ปิดโครงการ Metaverse พนักงาน 100 คน ตกงาน ปรับแผนมุ่งพัฒนา AI

TNN

Tech

ไมโครซอฟท์ปิดโครงการ Metaverse พนักงาน 100 คน ตกงาน ปรับแผนมุ่งพัฒนา AI

ไมโครซอฟท์ปิดโครงการ Metaverse พนักงาน 100 คน ตกงาน ปรับแผนมุ่งพัฒนา AI

การปลดพนักงานออกจากโครงการโลกเสมือนจริง (Metaverse) ในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนการปลดพนักงานออกกว่า 10,000 คน

การมาถึงของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์แชตจีพีที (ChatGPT) อาจกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของวงการเทคโนโลยีโลกและกลายเป็นกระแสหลักทดแทนกระแสของเทคโนโลยีโลกเสมือนจริง (Metaverse) ล่าสุดบริษัท ไมโครซอฟท์ (Microsoft) บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของโลกได้ยุติโครงการพัฒนาอุตสาหกรรมโลกเสมือนจริง (Industrial Metaverse Core) บางส่วน โดยพนักงานชุดแรกโดนปลดออกจากบริษัท 100 คน 


การปลดพนักงานออกจากโครงการโลกเสมือนจริง (Industrial Metaverse Core) ในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนการปลดพนักงานออกกว่า 10,000 คน หรือคิดเป็นสัดส่วน 4.5% ของจำนวนพนักงานทั้งหมดของบริษัท


บริษัท ไมโครซอฟท์ (Microsoft) ก่อตั้งโครงการพัฒนาอุตสาหกรรมโลกเสมือนจริง (Industrial Metaverse Core) ขึ้นในเดือนตุลาคม 2022 โดยทำหน้าที่พัฒนารูปแบบวิธีการที่จะนำโลกเสมือนจริง (Metaverse) เข้ามาปรับใช้ในบริการของบริษัท ซึ่งสอดคล้องกับทิศทางของบริษัทต่าง ๆ ในช่วงเวลานั้นที่ให้ความสนใจโลกเสมือนจริง (Metaverse)


อย่างไรก็ตามการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ของบริษัทที่นำปัญญาประดิษฐ์เข้ามาช่วยเสริม เช่น เสิร์ชเอนจิน (Search Engines) บริการค้นข้อมูลบิง (Bing) ดูเหมือนเป็นอนาคตที่สดใสของบริษัทมากกว่าและได้รับการตอบรับจากผู้ใช้งานและนักลงทุนจำนวนมากส่งผลให้มูลค่าหุ้นของบริษัทเพิ่มสูงขึ้น ในขณะที่ราคาหุ้นของบริษัทคู่แข่งอย่างแอลฟาเบต (Alphabet) ร่วงไปลงกว่า -7.68%


โดยก่อนหน้านี้บริษัท ไมโครซอฟท์ (Microsoft) ได้ประกาศเข้าไปลงทุนมูลค่ากว่า 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 327,800 ล้านบาท ในบริษัท โอเพนเอไอ (OpenAI) ผู้พัฒนาปัญญาประดิษฐ์แชตจีพีที (ChatGPT) โดยมีเงื่อนไขบริษัท ไมโครซอฟท์จะได้รับผลกำไร 75% ของบริษัท โอเพนเอไอ (OpenAI) ไปจนกว่าจะได้รับเงินลงทุนคืน


หลังจากนั้นบริษัท ไมโครซอฟท์จะเข้าไปถือหุ้น 49% และนักลงทุนรายอื่นอีก 49% ในบริษัท โอเพนเอไอ (OpenAI) ส่วนอีก 2% จะเป็นขององค์กรไม่แสวงหาผลกำไรของโอเพนเอไอ (OpenAI) โดยบริษัทเตรียมนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์เข้ามาใช้ในบริการต่าง ๆ ของไมโครซอฟท์เพิ่มมากขึ้น


ที่มาของข้อมูล Coindesk  

ที่มาของรูปภาพ Reuters 

 

ข่าวแนะนำ