Return Home สตาร์ตอัปรับดูแลร่างผู้จากไป ทำให้กลายเป็นปุ๋ยสู่ดิน
พาไปดูสตาร์ตอัปในสหรัฐฯ ที่เปิดบริการทำศพให้กลายเป็นปุ๋ย หนึ่งวิธีดูแลร่างผู้จากไปที่กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น เนื่องจากลดการสร้างมลพิษให้โลกแบบการเผา และยังสามารถนำดินที่ได้กลับมาปลูกต้นไม้เป็นที่ระลึก
ปัจจุบันเมื่อคนเราจากไป พิธีศพสุดท้าย ก็มักจะลงเอยด้วยการเผาหรือการฝัง แต่เมื่อคนหันมาสนใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น บริษัท Return Home ในสหรัฐฯ เลยคิดบริการใหม่ รับดูแลร่างผู้จากไป เปลี่ยนให้กลายเป็นปุ๋ยและดิน เพื่อช่วยลดมลพิษจากการเผา และลดพื้นที่จากการฝังได้อีกด้วย
ปล่อยให้ร่างย่อยสลายตามธรรมชาติ
หลักการนี้ เรียกว่า เทอร์ราเมชัน (Terramation) หรือการเปลี่ยนร่างมนุษย์ให้กลายเป็นปุ๋ยหมัก ซึ่งใช้หลักการย่อยสลายตามธรรมชาติ โดยบริษัทจะดูแลร่างในโลงแบบพิเศษ ที่รองด้วยหญ้า ฟาง ขี้เลื่อย ตัวโลงออกมีระบบเก็บกลิ่นรบกวน และควบคุมอุณหภูมิอยู่ที่ 65 องศาเซลเซียส เพื่อเร่งกระบวนการย่อยสลาย ขั้นแรกจะปล่อยทิ้งไว้ 30 วัน จนกระทั่งร่างกลายเป็นกระดูกและดิน ส่วนสิ่งที่ย่อยสลายไม่ได้ เช่น น็อต ฟันปลอม ก็จะแยกไปรีไซเคิล
สำหรับกระดูก จะบดให้เล็กลง แล้วส่งกลับใส่โลง เพื่อให้ย่อยสลายต่ออีก 30 วัน รวมเวลาของกระบวนการนี้ทั้งสิ้น 60 วัน ซึ่งสิ่งสุดท้ายที่ครอบครัวจะได้รับกลับไปก็คือดินและปุ๋ยอินทรีย์หนักประมาณ 180 กิโลกรัม พร้อมนำไปปลูกเป็นต้นไม้ เพื่อเป็นที่ระลึกถึงต่อไป
ค่าใช้จ่ายสำหรับวาระสุดท้ายที่ถูกกว่า
สำหรับค่าใช้จ่ายของกระบวนการนี้ อยู่ที่ 4,950 เหรียญสหรัฐฯ หรือราว 180,000 บาท ซึ่งถูกกว่าค่าทำศพแบบอื่นในสหรัฐฯ เช่น การเผา ที่มีราคาราว 7,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 260,000 บาท และปัจจุบันในสหรัฐอเมริกา มีหลายรัฐที่ได้ผ่านร่างกฎหมายรับรองกระบวนการนี้แล้ว ได้แก่ วอชิงตัน โคโลราโด เวอร์มอนต์ โอเรกอน และแคลิฟอร์เนีย ซึ่งสะท้อนให้เห็นความนิยมของการจัดการศพแบบใหม่มากขึ้นเรื่อย ๆ
อย่างไรก็ตาม วิธีการนี้ เป็นเพียงอีกทางเลือกของการดูแลร่างผู้จากไปเท่านั้น และจะเลือกใช้หรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับความเชื่อของแต่ละศาสนา แต่ก็นับว่าเป็นวิธีที่มีข้อดี ตรงที่ช่วยลดการใช้พลังงาน ลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์จากการเผา และยังลดค่าใช้จ่ายจากการทำพิธีได้ด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก
ข่าวแนะนำ
-
จีนเร่งพัฒนาจรวดขนส่งไปดวงจันทร์
- 20/6/67