ทะเลสาบใหญ่เบอร์ 2 ของสหรัฐฯ ยังคงระเหยอย่างต่อเนื่อง เซ่นสภาวะโลกร้อน
ภาพถ่ายดาวเทียมของนาซาเผยสภาพระดับน้ำในทะเลสาบที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของสหรัฐฯ ยังคงลดลงอย่างน่าใจหายเมื่อเทียบภาพเก่าในปี 2017
ทะเลสาบเพาเวลล์ (Powell Lake) คือทะเลสาบที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของสหรัฐอเมริกา เป็นแหล่งผลิตกระแสไฟฟ้าและแหล่งน้ำสำหรับการทำการเกษตร ตลอดจนอุปโภคและบริโภค นับตั้งแต่การเก็บข้อมูลระดับน้ำในทะเลสาบและแม่น้ำโดยรอบในปี 1967 ก็พบว่าระดับน้ำมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง และภาวะแห้งแล้งในเดือนนี้ของปี 2022 ก็รุนแรงสุดนับตั้งแต่มีการบันทึกข้อมูล รวมถึงยังตอกย้ำด้วยภาพถ่ายดาวเทียมที่เผยความน่าสะพรึงกลัวของภาวะโลกร้อนอีกด้วย
การติดตามข้อมูลระดับน้ำในทะเลสาบเพาเวลล์ (Powell Lake) จะวัดจากระดับน้ำที่วัดได้จากเขื่อนเกล็นแคนยอน (Glen Canyon Dam) และจุดที่มีน้ำมากอื่น ๆ ในเขตทะเลสาบ ด้วยการเก็บสำรวจจากกรมชลประทานของสหรัฐฯ หรือ USBR (U.S. Bureau of Reclamation) และภาพถ่ายดาวเทียมจากแลนด์แซต (Landsat) ในโครงการสำรวจทางธรณีวิทยาของนาซา (NASA)
จากข้อมูลทั้งหมดที่เริ่มบันทึกในปี 1967 ระดับน้ำในทะเลสาบแต่ละปีมีแนวโน้มลดลงเรื่อย ๆ ในลักษณะของวงจร (Loop) แบบถดถอย ซึ่งหมายความว่าระดับน้ำเมื่อถึงจุดต่ำสุดเมื่อเทียบกับปีก่อน ๆ ก็จะกลับมาเพิ่มขึ้นเป็นวงจร แต่วงจรใหม่นี้จะมีระดับน้ำต่ำกว่าวงจรก่อนหน้า โดยวงจรที่สูงที่สุดในช่วงเวลายุคปัจจุบันคือเดือนสิงหาคม ปี 2017 ที่มีระดับน้ำ 3633.04 ฟุต หรือ 1,107.35 เมตร แต่เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันในปีนี้ กลับมีระดับน้ำเพียง 3535.38 ฟุต หรือ 1,077.58 เมตร เท่านั้น ซึ่งภาพถ่ายดาวเทียมแสดงถึงความแตกต่างอยากมีนัยสำคัญ เพราะว่าขอบเขตของทะเลสาบเพาเวลล์นั้นลดลงไปอยากมาก โดยมีความจุเพียง 26 เปอร์เซ็นต์ ของความจุทะเลสาบทั้งหมด
ความแตกต่างนี้ดูเหมือนไม่มาก แต่ว่าในความเป็นจริงแล้วส่งผลกระทบอย่างรุนแรง เนื่องจากภาวะแห้งแล้งของทะเลสาบที่รุนแรงมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ระบบชลประทานทางฝั่งตะวันตกของประเทศกว่า 86 เปอร์เซ็นต์ นั้นได้รับผลกระทบ เดือดร้อนถึงประชากรกว่า 40 ล้านคน ในเมืองสำคัญ ๆ อาทิ ลาสเวกัส (Las Vegas) ฟีโอนิกซ์ (Phoenix) ลอสแอนเจลิส (Los Angeles) และซานดิเอโก (San Diego) และแม้แต่ประเทศเม็กซิโกก็ด้วย ทั้งหมดอยู่ในเขตลุ่มแม่น้ำโคโรลาโด (Colorado River) ที่เป็นแม่น้ำที่เชื่อมต่อกับทะเลสาบเพาเวลล์ (Powell Lake) ทำให้กรมชลประทานสหรัฐฯ ต้องปรับแผนการปล่อยน้ำให้น้อยลงในแต่ละพื้นที่ไม่ต่ำกว่า 7 เปอร์เซ็นต์ ของแผนการจ่ายน้ำเดิม
นอกจากเรื่องของชลประทานแล้ว ระดับน้ำที่ต่ำกว่าปกติของทะเลสาบยังส่งผลต่อประชากร 40 ล้านคน ในด้านของการป้อนกระแสไฟฟ้าอีกด้วย เพราะระดับน้ำในตอนนี้น้อยจนไม่สามารถทำให้กังหันน้ำของเขื่อนปั่นกระแสไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกต่อไป
ที่มาข้อมูลและรูปภาพ The Earth Observatory - NASA
ข่าวแนะนำ
-
จีนเร่งพัฒนาจรวดขนส่งไปดวงจันทร์
- 20/6/67