วิวาทะอภิมหาเศรษฐี ย้อนรอยตำนานเกาเหลา อีลอน มัสก์ ปะทะ บิล เกตส์

อีลอน มัสก์ (Elon Musk) บุคคลที่รวยเป็นอันดับ 1 ของโลก CEO แห่งบริษัทเทสลา (Tesla) ที่ไม่ว่าจะขยับตัวไปทางไหน ก็กลายเป็นกระแสข่าวไปหมด ล่าสุดเขาพึ่งจะสั่งปลดพนักงานออก 3% และลดเงินเดือนของพนักงานบริษัทเทสลา 10% โดยบอกว่าเป็นเพราะ “สภาวะเศรษฐกิจถดถอย” 

และนอกจากข่าวที่ไม่ลงรอยกับลูกสาว (ข้ามเพศ) ของตัวเองแล้ว อีลอน ยังมีปัญหากับ บิล เกตส์ (Bill Gates) มหาเศรษฐีชื่อดังด้านเทคโนโลยีอีกรายของโลกมายาวนานอีกด้วย 

มหาเศรษฐีอดีต CEO บริษัทไมโครซอฟต์ (Microsoft) กับ CEO คนปัจจุบันของ Tesla และ SpaceX ไม่ได้มีความสัมพันธ์ฉันท์มิตรกันตั้งแต่แรก และทั้งคู่ยังคงมีเรื่องราวกระทบกระทั่งกันไปมาอยู่อีกเรื่อย ๆ 

อุณหภูมิระหว่างชายสองคนนี้ ปะทุเข้าสู่จุดเดือดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เนื่องจากทั้งสองได้เปิดเกมส์รุกรับ หักเหลี่ยมไหวพริบกันในโลกออนไลน์อย่างโจ่งแจ้ง ตั้งแต่ประเด็นด้านยานพาหนะ ซึ่งก่อนหน้านี้นั้นทางบิล เกตส์ ได้เคยออกมาให้ความเห็นว่า "รถยนต์ไฟฟ้าคงเป็นได้แค่เพียงรถยนต์โดยสารระยะสั้น ไม่เหมาะกับการขนส่งของที่มีน้ำหนักมากและต้องเดินทางไกล” 

สงครามมหาเศรษฐี 

การที่บิล เกตส์ เลือกที่จะซื้อรถยนต์ไฟฟ้า แต่กลับไปซื้อรถคู่แข่งเทสลา อย่างปอร์เช (Porsche) Taycan รวมไปจนถึงปัญหาการจัดการโรคระบาด ทำเอาอีลอน มัสก์ถึงกับบอกตรง ๆ ว่าเขาไม่ค่อยปลื้มบิล เกตส์เท่าไรนัก 

ทั้งคู่เป็นเกาเหลาวงการเทครุ่นใหญ่ที่สุด เพราะอีลอนเป็นมหาเศรษฐีโลกอันดับที่ 1 ของโลกที่มีสินทรัพย์สูงถึง 1.95 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในขณะที่ทางบิล เกตส์ก็ไม่ได้น้อยหน้า ปัจจุบันเป็นมหาเศรษฐีโลกอันดับที่ 3 ของโลก ที่มีสินทรัพย์สูงถึง 1.37 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และก็เคยเป็นคนที่ครองแชมป์มหาเศรษฐีโลกอันดับที่ 1 ของโลกมาหลายสมัยเช่นเดียวกัน

ทั้งนี้ ในช่วงหนึ่งของงานประชุมสุดยอด จัดโดยสำนักข่าวเดอะ วอลล์ สตรีท เจอร์นัล (The Wall Street Journal) เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา บิล เกตส์ ได้กล่าวถึงการเข้าซื้อกิจการทวิตเตอร์ (Twitter) โดยอีลอน มัสก์ ด้วยมูลค่า 4.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ 

ประเด็นนี้ เกตส์ ยอมรับว่า ตัวเขาไม่ค่อยมั่นใจในอีลอน มัสก์ มากนัก ว่าถึงที่สุดแล้วเขาจะเปลี่ยนแปลงทวิตเตอร์อย่างไร หากได้ก้าวเข้ามาเป็นเจ้าของทวิตเตอร์อย่างแท้จริง

จุดเริ่มต้นเหตุเกาเหลา 

ขอย้อนกลับไปที่จุดเริ่มต้นเส้นทางเกาเหลาระหว่างบิล เกตส์ และอีลอน มัสก์ ความไม่กินเส้นเริ่มขึ้นในปี 2020 ซึ่งในขณะนั้น ทั้งคู่พยายามแก้ปัญหาไวรัสระบาด โดยบิล เกตส์ให้คำมั่นว่าจะใช้เงินหลายร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อต่อสู้กับโรคโควิด-19 ฝ่ายอีลอน มัสก์พยายามจัดหาเครื่องช่วยหายใจให้ผู้ป่วย มัสก์ยังร่วมมือกับบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพสัญชาติเยอรมัน CureVac (ซึ่งบิล เกตส์ได้ร่วมลงทุน) เพื่อสร้างอุปกรณ์ที่ช่วยผลิตวัคซีน

แต่ปัญหาคือ ที่ผ่านมา อีลอน มัสก์มักดูแคลนความรุนแรงของไวรัสเสมอมา โดยเขาเคยระบุว่า โรคนี้ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด ทั้งยังวิจารณ์คำสั่งให้อยู่บ้านของทางการอย่างหนัก มัสก์ยังบอกให้ใช้ยารักษามาลาเรียบางชนิดเป็นยารักษาโควิด ไม่เพียงเท่านั้นเขายังเคยประกาศว่าเด็ก ๆ เกิดมามีภูมิคุ้มกันต่อไวรัส และเคยตั้งข้อสงสัยต่อข้อมูลผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 

จากพฤติกรรมเหล่านี้ ทำให้บิล เกตส์ เริ่มมีปัญหากับการแสดงออกของอีลอน มัสก์ อย่างชัดเจน

“จากสถานะของอีลอน เขาควรจะงดแสดงความคิดเห็นที่ไม่เข้าท่านัก ผมหวังว่าเขาจะไม่ก้าวก่ายในส่วนที่เขาไม่ได้เกี่ยวมากเกินไป” เกตส์กล่าวในรายการ Squawk Box ของ CNBC

ที่มาของรูปภาพ Reuters

วิวาทะจุดไฟสงครามน้ำลาย

วาทะดังกล่าวเหมือนจุดชนวนไฟปะทุระหว่างสองฝ่าย จากนั้นมัสก์ก็เริ่มล้อเลียนบิล เกตส์ บนทวิตเตอร์ (Twitter) เพื่อตอบโต้ เขาทวีตติดตลกหลายโพสต์เกี่ยวกับบิล เกตส์ เช่นการเขียนว่า "บิลลี่ จีไม่ใช่คนรักของผม" และ "ข่าวลือที่ว่าบิล เกตส์กับผมเป็นคู่รักกัน มันไม่จริงเลย"

ในระหว่างการสัมภาษณ์พอดคาสต์กับ The New York Times เมื่อเดือนกันยายน 2020 อีลอน มัสก์ออกมาพูดปกป้องตัวเองในการช่วยเหลือผู้คนจากโรคระบาด โดยกล่าวว่า

“เกตส์พูดอะไรบางอย่างเกี่ยวกับผมโดยไม่รู้ว่าผมกำลังทำอะไรอยู่” อีลอน มัสก์กล่าว "แล้วก็เหมือนกับผมจะคิดว่า เฮ้ เจ้าทึ่ม จริง ๆ แล้วเราทำเครื่องฉีดวัคซีนสำหรับ CureVac ซึ่งเป็นบริษัทที่คุณออกเงินลงทุนอยู่ไง"

 

แย่งชิงตำแหน่งผู้รักษาโลก

อีกด้านหนึ่งของที่มาความตึงเครียดระหว่างบิล เกตส์กับอีลอน มัสก์ คือปัญหาภาวะสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเติบโตของบริษัทเทสลาในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่เกตส์กลับมองว่า เทสลามีบทบาทเพียงเล็กน้อยในการลดปัญหาโลกร้อน

ในระหว่างการสัมภาษณ์ในยูทูบ (Youtube) เมื่อปี 2020 บิล เกตส์กล่าวว่า ในขณะที่เทสลาช่วยขับเคลื่อนนวัตกรรมและการนำยานพาหนะไฟฟ้ามาใช้ เขาเพิ่งซื้อรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นอื่น นั่นคือ Porsche Taycan รุ่นปี 2022 ซึ่งเหมือนกับการตบหน้าอีลอน มัสก์อย่างจัง

อีลอน มัสก์ยังขุ่นข้องกับโพสต์ที่บิล เกตส์ถามว่า การสร้างยานพาหนะเป็นรถไฟฟ้าทั้งหมด เช่นรถ 18 ล้อ เป็นประโยชน์หรือไม่ แม้ว่าเขาไม่ได้พูดถึงเทสลาโดยตรง แต่เทสลาก็มีโครงการพัฒนารถบรรทุกไฟฟ้าอยู่ และเมื่อชาวทวิตเตอร์มาถามอีลอน มัสก์เกี่ยวกับความคิดเห็นของบิล เกตส์ ในเรื่องดังกล่าว อีลอน มัสก์ตอกกลับว่า "เขาช่างไม่รู้อะไรเลย"

บิล เกตส์ยังถือว่า ตนเองมีส่วนร่วมแก้ไขปัญหาสภาพภูมิอากาศที่เหนือกว่าอีลอน มัสก์อย่างชัดเจน “ผมให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมากกว่า อีลอน หรือใครก็ตาม” เกตส์กล่าวในระหว่างการสัมภาษณ์ในเดือนมิถุนายน 2022 

“ผมบริจาคเงินเพื่อการกุศลเป็นจำนวนมาก ผมสนับสนุนบริษัทต่าง ๆ คุณรู้ไหม รถยนต์ไฟฟ้าลดการปล่อยมลพิษประมาณ 16% เรายังต้องแก้ปัญหาที่เหลืออีก 84% ด้วย”

ขณะที่อีลอน มัสก์ตอบถึงคำสัมภาษณ์ดังกล่าวในทวิตเตอร์สั้น ๆ ว่า  “เฮ้อ”

ที่มาของรูปภาพ Reuters 

ไม่กินเส้นลามไปยันเทคโนโลยีอวกาศ, คริปโตฯ

และในขณะที่การสำรวจอวกาศโดยเฉพาะการตั้งรกรากบนดาวอังคารเป็นเป้าหมายหลักของอีลอน มัสก์ แต่บิล เกตส์ไม่ได้คิดว่ากิจกรรมเหล่านี้น่าประทับใจเท่าไร โดยบิล เกตส์ให้สัมภาษณ์กับพอดคาสต์ของ New York Times เมื่อต้นปี 2021 ว่าเขาไม่ใช่แฟนตัวยงของกิจกรรมการสำรวจดาวอังคาร 

“ผมไม่คิดว่าจรวดเป็นวิธีแก้ปัญหา” บิล เกตส์ระบุ ทั้งยังเสริมว่า เขาอยากจะใช้เงินของเขาไปกับวัคซีนบนโลกมากกว่าการเดินทางในอวกาศ

บิล เกตส์ยังไม่ค่อยชื่นชอบคริปโตเคอร์เรนซี (Cryptocurrency) ขณะที่อีลอน มัสก์ก็ยิ่งทำให้ความไม่ชื่นชอบของบิล เกตส์ หนักข้อยิ่งขึ้น โดยบิล เกตส์ตั้งข้อสังเกตว่า บิตคอยน์มีการใช้พลังงานสูง ซึ่งไม่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างยิ่ง และเตือนนักลงทุนว่าอย่าทิ้งเงินลงในบิตคอยน์เหมือนที่เทสลาทำ 

“แนวคิดของผมก็คือ ถ้าคุณมีเงินน้อยกว่าอีลอน คุณก็ควรจะระวังไว้” เขากล่าว

ขณะที่อีลอน มัสก์ แม้จะบอกว่าเขาขี้เกียจล้อเลียนบิล เกตส์แล้ว แต่พฤติกรรมล้อเลียนผู้ก่อตั้ง Microsoft ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ก็นับว่าเอาแน่เอานอนไม่ได้ และไม่ต้องพูดถึงความถูกต้องทางการเมือง (Political Correctness) ครั้งหนึ่งเขาเคยทวีตการ์ตูนการเมืองต่อต้านวัคซีนที่กล่าวถึงบิล เกตส์ และยังล้อเลียนน้ำหนักของบิล เกตส์ด้วย

บิล เกตส์เองก็แสบใช่ย่อย

อีลอน มัสก์ยังได้เปิดเผยปัญหาความไม่ลงรอยกับเกตส์ล่าสุดที่ผ่านมา โดยชี้ว่า เกตส์เป็นคนที่ซื้อหุ้นขาลง (Short) เทสลา ซึ่ง ‘Short’ หมายถึงการทำกำไรจากการยืมหุ้นที่คาดการณ์ว่าจะปรับตัวลงมาขาย และซื้อกลับมาเมื่อราคาได้ปรับตัวลงแล้ว โดยในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ผู้ซื้อหุ้นเทสลาขาลงมักตกเป็นเป้าหมายการโจมตีของอีลอน มัสก์ตลอดมา ไม่ว่าใคร โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ บิล เกตส์ 

 

โดยอีลอน มัสก์ได้ออกมาทวีตว่า "ผมได้ยินจากหลายคนที่ TED ว่า บิล เกตส์ Short หุ้น Tesla อยู่ราว 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.7 ล้านบาท) นั่นคือเหตุผลที่ถามเขา ดังนั้นมันจึงไม่ใช่ความลับสุดยอดแต่อย่างใด"

 

ในแชตที่หลุดออกมาอีลอน มัสก์ยังถามเกตส์ว่า “ยังมีสถานะ Short หุ้น Tesla อยู่ราว 50,000 ดอลลาร์สหรัฐอยู่หรือเปล่า” 

ฝ่ายบิล เกตส์ตอบกลับมาว่า “โทษทีที่ยังปิด Short ไม่ได้ แต่ผมยังอยากคุยเกี่ยวกับการทำบุญของเราสองคนอยู่นะ” ทำให้อีลอน มัสก์ ตอบกลับว่า “ขอโทษที แต่ผมคงเอาจริงเอาจังกับการบริจาคไม่ได้แล้ว หากคุณยังคงมีสถานะ Short กับเทสลาอยู่ โดยบริษัทของเราพยายามอย่างเต็มที่กับสภาวะโลกร้อนอยู่แล้ว” 

แล้วพวกเขามีวี่แววจะกลับมาคืนดีกันไหม?

เมื่อปีก่อน มีเหตุการณ์ที่หาดูได้ยากยิ่งคือ บิล เกตส์ ได้ออกมาชื่นชมอีลอน มัสก์ ในระหว่างการให้สัมภาษณ์กับพอดคาสต์ในปี 2021 เกตส์กล่าวว่าสิ่งที่อีลอน มัสก์ทำสำเร็จกับเทสลาคือ “การมีส่วนร่วมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเกี่ยวกับสภาวะภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง” ทั้งยังบอกว่า “การประเมินอีลอนต่ำไป ไม่ใช่ความคิดที่ดี”

แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อเร็ว ๆ นี้ บิล เกตส์บอกเป็นนัยว่าปัญหาระหว่างทั้งคู่อยู่ที่อีลอน มัสก์  ไม่ใช่เขา และเมื่อถูกถามว่าพวกเขาเป็นเพื่อนกันหรือไม่ บิล เกตส์ตอบว่า “ผมชอบเขานะ ผมคิดว่าเขาทำอะไรเจ๋ง ๆ ออกมาได้ แต่ผมไม่รู้จักเขาดีพอ”

จากเหตุการณ์ทั้งหมดที่ผ่านมา เห็นได้ว่าสถานการณ์เกาเหลาของเจ้าพ่อเทคโนโลยีทั้งสองคนคงไม่คลี่คลายไปได้โดยง่ายนัก แม้บิล เกตส์จะใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการทำมูลนิธิช่วยเหลือด้านต่าง ๆ แต่เขายังตกเป็นข่าวอยู่เป็นระยะเมื่อมีความเคลื่อนไหวด้านเทคโนโลยีหรือกิจกรรมทางสังคม ในขณะที่อีลอน มัสก์ยังคงมีบทบาทสำคัญในบริษัทเทสลา ซึ่งกำลังขยายโรงงานผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในสหรัฐอเมริกาและประเทศต่าง ๆ และเป็นบริษัทเทคโนโลยีที่มีมูลค่าสูงเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก

ซึ่งเราก็จะได้จับตามองกันต่อไป ว่าจะมีการโต้แย้งอะไรออกมาให้เราได้เห็นกันอีกในอนาคต

ที่มาของข้อมูล scmp.com, cnbc.com 

ที่มาของรูปภาพ Reuters