TNN Tiktok ย้ายฐานข้อมูลผู้ใช้งานมาเก็บในเซิร์ฟเวอร์ที่สหรัฐฯ ลดข้อครหาส่งข้อมูลให้จีน

TNN

Tech

Tiktok ย้ายฐานข้อมูลผู้ใช้งานมาเก็บในเซิร์ฟเวอร์ที่สหรัฐฯ ลดข้อครหาส่งข้อมูลให้จีน

Tiktok ย้ายฐานข้อมูลผู้ใช้งานมาเก็บในเซิร์ฟเวอร์ที่สหรัฐฯ ลดข้อครหาส่งข้อมูลให้จีน

Tiktok แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียชื่อดัง บรรลุข้อตกลงเพื่อย้ายฐานข้อมูลผู้ใช้งานในสหรัฐฯกับ Oracle บริษัทบริการซอฟต์แวร์ระดับโลกของสหรัฐฯ

ความขัดแย้งระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัทต่าง ๆ ทั้งจากจีนและสหรัฐฯ รวมถึงติ๊กตอก (Tiktok) ที่โดนหางเลขจากความขัดแย้งในครั้งนี้ไปด้วย โดยถูกกล่าวหาว่าเป็นส่วนหนึ่งของเครื่องมือการสอดแนมจากรัฐบาลจีน ในที่สุด Tiktok ก็สามารถบรรลุข้อตกลงกับออราเคิล (Oracle Corp) บริษัทด้านบริการซอฟต์แวร์และเทคโนโลยีชื่อดังของโลกในการนำฐานข้อมูลผู้ใช้งานมาเก็บไว้ที่สหรัฐฯ โดยบริษัทออราเคิล (Oracle Corp) ในสหรัฐฯ เอง เพื่อแก้ข้อครหาดังกล่าว


ในปี 2019 รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ได้ขึ้นบัญชีดำไบต์แดนซ์ (ByteDance) บริษัทผู้ผลิตแพลตฟอร์ม (Platform) โซเชียลมีเดียชื่อดังอย่างติ๊กตอก (Tiktok) จากจีน พร้อมกับบังคับให้ ByteDance ขาย Tiktok ในสหรัฐฯ อีกด้วย โดยอ้างว่าทางรัฐบาลพบว่ามีความเสี่ยงที่บริษัทจะแอบส่งข้อมูลผู้ใช้งานในสหรัฐฯ ไปให้ทางรัฐบาลพรรคคอมมิวนิสต์จีนโดยผ่านระบบสำรองข้อมูล (Backup) ไปยังเซิร์ฟเวอร์ (Server) ที่อยู่ในสำนักงานใหญ่ของบริษัทในประเทศจีน 


อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เปลี่ยนประธานาธิบดีเป็นโจ ไบเดน (Joe Biden) รัฐบาลสหรัฐฯ ก็ไม่ได้บังคับให้บริษัทไบต์แดนซ์ (ByteDance) ขาย Tiktok ในสหรัฐฯอีก 


ข้อตกลงระหว่างออราเคิล (Oracle) และไบต์แดนซ์ (ByteDance) เกิดขึ้นภายใต้การสร้างทีมงานรักษาความปลอดภัยข้อมูลในสหรัฐฯ (U.S. Data Security: USDS) ที่เป็นอิสระแยกออกมาต่างหากจากฝ่ายเก็บฐานข้อมูลของบริษัท โดยมีทีมงานของ Tiktok เข้าไปนั่งหัวเรือใหญ่ แต่ให้การทำงานและจัดเก็บข้อมูลนั้นเกิดขึ้นโดยอิสระภายใต้การควบคุมของออราเคิล (Oracle) 


การตกลงกันในครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความกังวลว่าติ๊กตอก (Tiktok) แอบส่งข้อมูลไปยังรัฐบาลจีนจริงหรือไม่ แม้ว่าทางออราเคิล (Oracle) จะไม่ได้ให้ความเห็นใด ๆ ก็ตาม แต่การย้ายฐานข้อมูลผู้ใช้งานก็เป็นส่วนหนึ่งของการแก้ปัญหาที่ Oracle เองก็ต้องการให้ธุรกิจนั้นเติบโตต่อไปโดยลดแรงกดดันทางการเมือง ซึ่งจะส่งผลเสียต่อบริษัทเองในฐานะผู้ถือหุ้นด้วยเช่นกัน ในขณะที่ทำเนียบขาวไม่ได้มีความเห็นในเรื่องนี้อย่างเป็นทางการ และกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ ก็ปฏิเสธการออกความคิดเห็นในเรื่องนี้


จีน่า ไรมอนโด (Gina Raimondo) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ มองนโยบายการป้องกันข้อมูลส่วนบุคคลของชาวอเมริกันในยุคสมัยของโดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) นั้นน่ากังขา และเป็นการกระทำที่ไร้ความหมายอีกด้วย


ที่มาข้อมูล Reuters

ที่มารูปภาพ Unsplash


ข่าวแนะนำ