ราคาเหรียญ LUNA ดิ่งเหว นักลงทุนจำนวนไม่น้อยถึงกับหมดตัวเกิดขึ้นได้อย่างไร?

ปัจจุบันเงินดิจิทัลหรือคริปโทเคอร์เรนซี (Cryptocurrency) ได้มีการซื้อขายแลกเปลี่ยนในประเทศต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้น เงินดิจิทัลถูกพัฒนาขึ้นมาหลายรูปแบบโดยใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่าบล็อกเชน (Blockchain) การจัดเก็บข้อมูลแบบไม่มีตัวกลางกระจายอำนาจ (Decentralized) การเชื่อมต่อฐานข้อมูลต่าง ๆ หลายแห่งทั่วโลกเข้าด้วยกันลักษณะคล้ายห่วงโซ่ (Chain) ที่มีความแข็งแกร่งข้อมูลถูกแก้ไขปลอมแปลงหรือถูกทำลายได้ยาก 

เงินดิจิทัลที่ได้รับความนิยม เช่น Bitcoin, ETH, BNB รวมไปถึงเงินดิจิทัลเหรียญ LUNA ที่เคยมีอันดับส่วนแบ่งการตลาดขึ้นมาอยู่ใน 20 อันดับแรกของส่วนแบ่งการตลาดทั้งหมด อย่างไรก็ตามมูลค่าของเหรียญ LUNA กลับดิ่งเหวลงจนแทบไม่เหลือมูลค่าภายในเวลาไม่กี่วัน นักลงทุนทั่วโลกหลายคนแทบสิ้นเนื้อประดาตัว มูลค่าของเหรียญ LUNA ที่เคยสูงถึง 114 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 3,967 บาท ต่อ 1 เหรียญ LUNA กลับดิ่งเหวเหลือไม่ถึง 1 บาท ภายในระยะเวลาเพียงไม่กี่วัน กลายเป็นเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ในตลาดซื้อขายเงินดิจิทัล 

ทำความรู้จักเงินดิจิทัลเหรียญ LUNA 

เหรียญ LUNA เป็นเหรียญดิจิทัลที่มีลักษณะเป็น Governance Token บนแพลตฟอร์ม Terra พัฒนาโดยทีมงานบริษัทด้านเทคโนโลยีบล็อกเชนในประเทศเกาหลีใต้ ก่อนหน้านี้เหรียญ LUNA เปิดให้ทำการซื้อขายในตลาดซื้อขายเหรียญดิจิทัลทั่วโลก รวมไปถึงตลาดซื้อขายเหรียญดิจิทัลในประเทศไทย

ทำความรู้จักเงินดิจิทัลเหรียญ Stablecoins ชื่อว่า UST 

เหรียญ UST เป็นเหรียญดิจิทัลที่มีลักษณะเป็น Stablecoins บนแพลตฟอร์ม Terra การรักษามูลค่าของเหรียญ UST ให้เท่ากับ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ ใช้เหรียญ LUNA ในการอ้างอิงมูลค่าตามปริมาณความต้องการในการถือครองเหรียญ UST และ LUNA วิธีการรักษามูลค่าดังกล่าวดูเหมือนจะใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพจนกระทั่งเกิดปัญหาและกลายเป็นประเด็นร้อนในวงการเงินดิจิทัล 

การรักษามูลค่าของเงินดิจิทัล Stablecoins แบ่งออกเป็น 3 รูปแบบ คือ 

1. แบบแรกมีสินทรัพย์ในโลกความจริงเข้ามาเป็นตัวค้ำประกันราคา เช่น เงินดอลลาร์ เพื่อให้เงินดิจิทัล Stablecoins มีราคาใกล้เคียงกับเงิน 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ

2. แบบใช้เงินดิจิทัลเป็นตัวค้ำประกันราคา เช่น เหรียญ DAI ใช้การนำเงินดิจิทัลสกุลอื่น ๆ เข้ามาค้ำประกันราคาของเหรียญ DAI ให้อยู่ในระดับราคาใกล้เคียงกับเงิน 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ

3. เงินดิจิทัล Stablecoins แบบที่ไม่มีทั้งสินทรัพย์ในโลกความจริงและเงินดิจิทัลเป็นตัวค้ำประกันราคาให้ใกล้เคียงกับเงินสกุลดอลลาร์แต่ใช้กลไกที่เรียกว่า การอาบิทราจ (Arbitrage) ซึ่งรูปแบบที่ 3 นี้เป็นรูปแบบที่เหรียญ Stablecoins ชื่อว่า UST กำลังใช้งานอยู่ 

การรักษามูลค่าของเงิน UST ให้เท่ากับเงิน 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ

กลไกแบบการอาบิทราจ (Arbitrage) ในกรณีของเหรียญ UST ที่ใช้เพื่อการค้ำประกันราคากันให้เหรียญ UST มีราคาเท่ากับ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ กรณีที่เหรียญ UST มีราคาดิ่งลง นักลงทุนสามารถซื้อเหรียญ UST ในราคาที่ต่ำกว่า 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อไปขายเป็นเหรียญดิจิทัล LUNA ในราคาเท่ากับ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ ได้ในทันที ซึ่งทำให้นักลงทุนได้กำไรจากส่วนต่างของราคาเหรียญ กระบวนการดังกล่าวทำให้เงินเหรียญ UST สามารถรักษามูลค่าให้เท่ากับ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ

ปัญหาของการใช้กลไกแบบการอาบิทราจ (Arbitrage) ของเหรียญ UST

กลไกแบบการอาบิทราสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพในช่วงตลาดขาขึ้นราคาเหรียญดิจิทัลส่วนใหญ่ในตลาดพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เป็นช่วงตลาดขาลง ราคาเหรียญดิจิทัลส่วนใหญ่ราคาร่วง กลไกแบบการอาบิทราจ (Arbitrage) จะประสบปัญหา เนื่องจากนักลงทุนขาดความเชื่อมั่นในเหรียญ UST และเทขายเหรียญ UST ออกมาจนราคาร่าง เมื่อเหรียญ UST ราคาร่วงการรักษามูลค่าของเหรียญให้เท่ากับ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ จำเป็นต้องใช้เหรียญ LUNA จำนวนมากในการเข้ามารักษามูลค่า ทำให้เหรียญ LUNA ถูกผลิตออกมาจำนวนมากกว่าปกติจนทำให้ราคาเหรียญรูดลงอย่างรวดเร็วตามกลไกของตลาด

ในแพลตฟอร์ม Terra ยังมีบริการ เช่น Anchor Protocol ที่เปิดให้นำเหรียญ UST มาทำการฝากในแพลตฟอร์มเพื่อให้ผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ยสูง 18-50% ส่งผลให้คนจำนวนมากนำเงิน UST มาฝากเพื่อกินดอกเบี้ยโดยใช้เงินร้อนหรือเงินที่ไปทำการกู้มาจากแหล่งอื่น ดังนั้นเมื่อการรักษามูลค่าของเหรียญ UST และเหรียญ LUNA กำลังประสบปัญหาและมีราคาร่วงลงอย่างรวดเร็วส่งผลให้นักลงทุนจำนวนมากรีบทำการถอนเงินเหรียญ UST ออกจากการฝากเงินใน Anchor Protocol 

นอกจากปัญหาในเชิงโครงสร้างวิธีการรักษามูลค่าของเหรียญ UST นักวิเคราะห์เชื่อว่าการล่มสลายของราคาเหรียญ UST และเหรียญ LUNA เกิดจากการรุมโจมตีของนักลงทุนรายใหญ่ที่มองเห็นโอกาสและช่องว่างของระบบการรักษามูลค่าของเหรียญ UST และนักลงทุนรายใหญ่กลุ่มดังกล่าวสามารถกอบโกยเงินจากการโจมตีในครั้งนี้มูลค่ามหาศาล

แนวทางแก้ไขปัญหาในอนาคตของแพลตฟอร์ม Terra

 

ทีมงานแพลตฟอร์ม Terra ได้พยายามกู้สถานการณ์โดยการขายเหรียญ Bitcoin ที่ถือครองอยู่เพื่อนำเงินมารักษามูลค่าแต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ นอกจากนี้ยังมีเตรียม Reset ระบบให้กลับมามีจำนวนเหรียญ LUNA เท่ากับ 1,000 ล้านเหรียญ และทำการแจกให้ผู้ถือเหรียญ UST และ LUNA ตามสัดส่วนและเงื่อนไขที่กำหนด รวมไปถึงแผนการนำสินทรัพย์รูปแบบอื่น ๆ มาทำการค้ำประกันราคาของเหรียญ UST อย่างไรก็ตามสำหรับนักลงทุนแล้วความพยายามดังกล่าวยังดูน้อยเกินไปเมื่อเทียบกับความเสียหายที่เกิดขึ้นในขณะที่มูลค่าของเหรียญ LUNA ยังคงดิ่งลงอย่างต่อเนื่อง 

ผลกระทบต่อตลาดเงินดิจิทัลหรือคริปโทเคอร์เรนซี (Cryptocurrency)

สำหรับนักลงทุนที่ถือครองเหรียญ LUNA นับเป็นความเสียหายมหาศาล นักลงทุนจำนวนมากหมดตัวสะท้อนความอันตรายของตลาดเงินดิจิทัล ดังนั้นนักลงทุนจะต้องทำการศึกษาหาข้อมูลอย่างเพียงพอก่อนตัดสินใจเข้าซื้อเหรียญดิจิทัลเหรียญใดเหรียญหนึ่ง ไม่ใช่แค่เพียงตลาดเงินดิจิทัลการตัดสินใจลงทุนทุกรูปแบบจำเป็นต้องมีการศึกษาหาข้อมูลอย่างเพียงพอเช่นเดียวกัน

การดิ่งเหวของราคาเหรียญ LUNA และ UST ส่งผลต่อความเชื่อมั่นในการใช้งานเงินดิจิทัล นอกจากนี้ยังได้รับความสนใจจากหน่วยงานในรัฐบาลสหรัฐอเมริกาเป็นอย่างมาก ซึ่งในอนาคตอาจมีการออกกฎหมายควบคุมเงินดิจิทัลสกุลต่าง ๆ และการควบคุมเงินดิจิทัล Stablecoins เพิ่มเติมมากขึ้น

ที่มาของข้อมูล coindesk.com, zipmex.com, coinmarketcap.com, terra.money, agora.terra.money

ที่มาของรูปภาพ pixabay