เปิดผลทดสอบระบบช่วยขับขี่รถยอดนิยม 3 รุ่น ในสหรัฐฯ พบแทนการควบคุมโดยมนุษย์ไม่ได้

AAA องค์กรที่ให้บริการสำหรับผู้บริโภค และยานพาหนะในสหรัฐฯ ชี้ว่า การทดสอบล่าสุดในระบบช่วยขับขี่และระบบเบรกอัตโนมัติ ปรากฏผลออกมาว่า ระบบที่มีอยู่ในปัจจุบันไม่เพียงพอ และยังคงต้องให้ผู้ขับขี่ควบคุมยานพาหนะอยู่เสมอ

สมาคมรถยนต์แห่งอเมริกา หรือ AAA (American Automobile Association) องค์กรที่ให้บริการสำหรับผู้บริโภค และยานพาหนะในสหรัฐฯ ชี้ว่า การทดสอบล่าสุดในระบบช่วยขับขี่และระบบเบรกอัตโนมัติ ปรากฏผลออกมาว่า ระบบที่มีอยู่ในปัจจุบัน ไม่เพียงพอต่อการขับขี่แบบอัตโนมัติโดยสมบูรณ์ และยังคงต้องให้ผู้ขับขี่ควบคุมยานพาหนะอยู่เสมอ

สำหรับรถยนต์ในยุคปัจจุบันที่ผลิตขึ้นมาใหม่ ส่วนใหญ่จะได้รับการติดตั้งระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่อัตโนมัติหรือ ADAS (Automated Driver Assistance Systems) ที่ทำหน้าที่ควบคุมรถในบางจังหวะให้โดยอัตโนมัติ เช่น การบังคับพวงมาลัย การอยู่ในเลน และการเบรก ขณะที่หนึ่งในระบบบังคับรถยนต์อัตโนมัติที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักกัน คือ ระบบออโตไพลอต (Autopilot) ของเทสลา (Tesla) ซึ่งผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ส่วนใหญ่ จะคิดค้นเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกับระบบดังกล่าวออกมา

ขณะที่หน่วยงานกำกับดูแล บริษัทประกันรถยนต์ และผู้ผลิตรถยนต์ต่างเคยแจ้งเตือนว่า ระบบ ADAS ไม่สามารถทดแทนการบังคับจากคนขับได้

ในการศึกษาล่าสุด เกี่ยวกับข้อจำกัดของเทคโนโลยีช่วยขับขี่ นักวิจัยของ AAA ทดลองจัดสถานการณ์จำลอง 4 สถานการณ์สำหรับรถทดสอบทั้งสามรุ่น ของ เทสลา (Tesla) รุ่น Model 3, ฮุนได (Hyundai) รุ่น Santa Fe และซูบารุ (Subaru) รุ่น Forester ได้แก่

การแซงรถจำลองที่เคลื่อนไปในทิศทางเดียวกับรถทดสอบ
แซงนักปั่นจักรยานที่มุ่งหน้าไปในทิศทางเดียวกันกับรถทดสอบ
การเผชิญกับรถจำลองบนเส้นทางการชนกันแบบประสานงา ด้วยความเร็ว 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
การหลีกเลี่ยงรถจักรยานจำลองที่วิ่งข้ามมาบนเส้นทางรถทดสอบ

ผลการทดสอบ พบว่า รถทดสอบทั้งสามคัน ตรวจพบสิ่งกีดขวางและหลีกเลี่ยงการชนกับรถจำลอง รวมถึงหลบนักปั่นจักรยานที่เคลื่อนตัวไปในทิศทางเดียวกันกับรถที่ทดสอบได้

แต่การทดสอบการชนแบบประสานงาสำหรับ Hyundai Santa Fe และ Subaru Forester นั้น รถทั้งสองรุ่น ตรวจไม่พบรถจำลองที่พุ่งตรงมา ทั้งยังไม่ได้ชะลอความเร็วเพื่อหลีกเลี่ยงการชนแบบประสานงา ขณะที่ Tesla Model 3 เบรกโดยอัตโนมัติเมื่อตรวจพบรถจำลองที่กำลังเคลื่อนที่ โดยเคลื่อนที่ช้าลงเหลือเพียง 5 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และค่อย ๆ ลดลงอีกก่อนที่จะชนกับรถจำลองในที่สุด

อย่างไรก็ตาม เทสลาไม่แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการศึกษานี้ ขณะที่ฮุนไดกล่าวในแถลงการณ์ว่า พวกเขากำลังทบทวนผลการวิจัยในรายงานของ AAA ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่อง ในด้านความปลอดภัยของลูกค้า ด้านซูบารุ แจ้งว่า กำลังประเมินผลตรวจสอบของ AAA เพื่อทำความเข้าใจในการทดสอบดังกล่าว และล่าสุด โดมินิค อินฟานเต (Dominick Infante) โฆษกของซูบารุ กล่าวในอีเมลว่า ซูบารุได้ทำการปรับปรุงระบบช่วยขับขี่ EyeSight สำหรับรถ Forester รุ่นปี 2022 แล้ว

ที่มาของข้อมูล reuters.com