Formula E เปิดตัวรถแข่งพลังงานไฟฟ้ารุ่นใหม่ Gen 3 สำหรับใช้แข่งขันในปีหน้า

ฟอร์มูลา อี (Formula E) รายการแข่งขันรถยนต์ไฟฟ้าชื่อดังเปิดรถยนต์ไฟฟ้า Gen 3 รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่จะใช้แข่งขันในปี 2023 โดยรถยนต์ไฟฟ้า Gen 3 มีการยกระดับในเรื่องของประสิทธิภาพและความเร็วมากกว่ารถยนต์ไฟฟ้า Gen 2 คาดว่าจะเริ่มมีการใช้ในการแข่งขันฤดูกาล 2022-2023 สนามแรกประเทศโมนาโก 

เปรียบเทียบรถยนต์ไฟฟ้า Gen 3 และรถยนต์ไฟฟ้า Gen 2

1. รถยนต์ไฟฟ้า Gen 3 ใช้มอเตอร์ไฟฟ้า 350kW สร้างกำลัง 470 แรงม้า ในขณะรถยนต์ไฟฟ้า Gen 2 ใช้มอเตอร์ไฟฟ้า 250kW สร้างกำลัง 355 แรงม้า

2. รถยนต์ไฟฟ้า Gen 3 ทำความเร็วสูงสุดได้ 320 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในขณะที่รถยนต์ไฟฟ้า Gen 2 ทำความเร็วสูงสุด 280 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

3. รถยนต์ไฟฟ้า Gen 3  ตัวรถมีน้ำหนัก 840 กิโลกรัม ในขณะที่รถยนต์ไฟฟ้า Gen 2 ตัวรถมีน้ำหนัก 900 กิโลกรัม 

4. รถยนต์ไฟฟ้า Gen 3 ระบบขับเคลื่อนทั้งล้อหน้าและล้อหลัง ในขณะที่รถยนต์ไฟฟ้า Gen 2 ระบบขับเคลื่อนล้อหลังเท่านั้น

5. รถยนต์ไฟฟ้า Gen 3 ความยาวตัวรถ 5.2 เมตร ในขณะที่รถยนต์ไฟฟ้า Gen 2 ความยาวตัวรถ 5.016 เมตร 

6. รถยนต์ไฟฟ้า Gen 3 ความกว้างของตัวรถ 1.8 เมตร ในขณะที่รถยนต์ไฟฟ้า Gen 2 ความกว้างของตัวรถ 1.7 เมตร

7. รถยนต์ไฟฟ้า Gen 3 ความกว้างฐานล้อ 3.1 เมตร ในขณะที่รถยนต์ไฟฟ้า Gen 2 ความกว้างฐานล้อ 2.970 เมตร

รถยนต์ไฟฟ้า Gen 3 ได้รับการติดตั้งเทคโนโลยี Regenerative Braking ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้รถยนต์ไฟฟ้าสามารถขับขี่ไปได้ไกลมากขึ้น รถยนต์ไฟฟ้า Gen 3 มีประสิทธิภาพในการชาร์จแบตเตอรี่ในระดับที่รวดเร็วมากถึง 600 กิโลวัตต์ ซึ่งเร็วกว่าระบบการชาร์จแบตเตอรี่ที่มีการใช้อยู่ในทุกวันนี้  ทำให้รถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้ในการแข่งขันใช้เวลาในการหยุดชาร์จแบตเตอรี่น้อยลง 

ก่อนหน้านี้รายการแข่งขันรถยนต์ไฟฟ้าฟอร์มูลา อี (Formula E) ได้มีการเปลี่ยนจากรถยนต์ไฟฟ้า Gen 1 มาเป็นรถยนต์ไฟฟ้า Gen 2 มาแล้วเพื่อยกระดับประสิทธิภาพในการแข่งขันมากขึ้น สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า Gen 1 ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นเก่าสามารถทำความเร็วสูงสุดได้เพียง 225 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ถูกใช้ในการแข่งขันฤดูกาล 2016-2017 สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า Gen 3 ทางฟอร์มูลา อี (Formula E) ได้ให้คำมั่นว่า จะช่วยยกระดับการแข่งขันให้มีความน่าตื่นเต้นมากขึ้น ในขณะเดียวกันก็ยังคงรักษามาตรฐานความปลอดภัยในการแข่งขัน

ข้อมูลจาก : electrek.co

ภาพจาก : engadget.com