TNN แชตหลุด! อีลอน มัสก์ปะทะบิล เกตส์ กรณีมูลนิธิแก้ปัญหาโลกร้อนและการชอร์ตหุ้น Tesla

TNN

Tech

แชตหลุด! อีลอน มัสก์ปะทะบิล เกตส์ กรณีมูลนิธิแก้ปัญหาโลกร้อนและการชอร์ตหุ้น Tesla

แชตหลุด! อีลอน มัสก์ปะทะบิล เกตส์ กรณีมูลนิธิแก้ปัญหาโลกร้อนและการชอร์ตหุ้น Tesla

ปัจจุบันบิล เกตส์ยังถือสถานะชอร์ตหุ้นบริษัท Tesla มูลค่ากว่า 500 ล้านดอลลาร์ หรือ 17,059 ล้านบาท

อีลอน มัสก์ปะทะบิล เกตส์ เมื่อมหาเศรษฐีระดับโลกเกิดวิวาทะกันและมีแชตหลุดออกมาทำให้กลายเป็นข่าวใหญ่ที่หลายคนให้ความสนใจ ประเด็นดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อมีผู้เปิดเผยหน้าจอแชตหลุด! การสนทนาระหว่างอีลอน มัสก์ผู้บริหารบริษัท Tesla และบิล เกตส์ อดีตผู้บริหารและผู้ก่อตั้งบริษัท Microsoft 


ข้อความในแชตหลุดกล่าวถึงบิต เกตส์ได้ชักชวนอีลอน มัสก์มาร่วมทำมูลนิธิแก้ไขปัญหาโลกร้อน แต่ดันเจอคำถามสวนกลับจากอีลอน มัสก์ว่าบิล เกตส์ยังถือสถานะชอร์ตหุ้นบริษัท Tesla มูลค่ากว่า 500 ล้านดอลลาร์อยู่หรือไม่ การชอร์ตหุ้นผู้ที่ถือสถานะชอร์ตจะได้เงินเมื่อราคาหุ้นของบริษัทนั้น ๆ ร่วงและราคาตกต่ำ


บิต เกตส์พยายามอธิบายว่าเข้ามาพูดคุยเพราะอยากชวนมาร่วมทำกิจกรรมในมูลนิธิแก้ไขปัญหาโลกร้อน แต่อีลอน มัสก์ตอบกลับอย่างตรงไปตรงมาว่าไม่สามารถคุยกับคนที่ถือสถานะชาร์ตหุ้นของบริษัท Tesla ได้ ที่สำคัญบริษัท Tesla มีภารกิจที่จะแก้ไขปัญหาโลกและสร้างพลังงานสะอาดที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอยู่แล้ว


ต่อมามีผู้ไปทวีตข้อความถามอีลอน มัสก์ว่าการสนทนาในแชตหลุดดังกล่าวเป็นเรื่องจริงหรือไม่ อีลอน มัสก์ยืนยันว่าประเด็นดังกล่าวเป็นเรื่องจริง แต่ข้อความแชตที่หลุดออกมาจากเกิดจากบุคคลอื่นที่ไม่ใช่เขาและบิล เกตส์อย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามอีลอน มัสก์อธิบายเพิ่มเติมว่าข้อมูลการลงทุนหรือการชอร์ตหุ้นบริษัทไม่ใช่ข้อมูลที่เป็นความลับ 


ปัจจุบันแม้บิล เกตส์จะลดบทบาทตัวเองลงจากบริษัท Microsoft และใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการทำมูลนิธิช่วยเหลือด้านต่าง ๆ แต่เขายังตกเป็นข่าวอยู่เป็นระยะเมื่อมีความเคลื่อนไหวด้านเทคโนโลยีหรือกิจกรรมทางสังคม ในขณะที่อีลอน มัสก์ยังคงมีบทบาทสำคัญในบริษัท Tesla ซึ่งกำลังขยายโรงงานผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในสหรัฐอเมริกาและประเทศต่าง ๆ โดยบริษัท Tesla มีภารกิจสำคัญของบริษัทในการเปลี่ยนโลกของยานพาหนะให้กลายเป็นเทคโนโลยีพลังงานไฟฟ้าที่ใช้พลังงานสะอาดเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม


ที่มาของข้อมูล : cnbc.com 

ที่มาของรูปภาพ : reuters.com

ข่าวแนะนำ