เตือนภัย! หนุ่มโรคจิตแอบติด Apple Watch ไว้ที่รถแฟนเก่าเพื่อสะกดรอยตาม
เลิกกันแล้วไม่แคล้วตามสะกดรอย ด้วยการใช้ Apple Watch ติดตั้งไว้ในรถยนต์ของแฟนเก่า ซ้ำรอยคดีเดิม ๆ ก่อนหน้านี้ของ Apple ที่มักจะมีคนใช้ AirTag ไปในทางที่ผิดเช่นกัน
หนุ่มในรัฐเทนเนสซีโดนรวบหลังจากแอบสะกดรอยตามแฟนเก่าด้วยการใช้ Apple Watch นาฬิกาข้อมืออัจฉริยะของ Apple ติดไว้ที่บริเวณซี่ล้อรถของเธอ สุดท้ายก็ไปไม่รอด โดนตำรวจรวบไปตามระเบียบ
เหตุเกิดขึ้นเมื่อหญิงสาวคนหนึ่งเข้าไปขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ศูนย์ดูแลความปลอดภัยในครอบครัว ว่าเธอถูกแฟนเก่าสะกดรอยตามและเคยพยายามจะขู่ฆ่าเธอหลายครั้งก่อนหน้านี้ด้วย ที่สำคัญ ชายหนุ่มคนนี้เคยถูกตั้งข้อหาทำร้ายร่างกายมาแล้วหลายครั้ง ทำให้เธอรู้สึกไม่ปลอดภัยจนต้องเข้ามาขอความช่วยเหลือในที่สุด
นอกจากนี้ เธอยังเล่าว่าก่อนหน้านี้ทั้งคู่เคยใช้แอปพลิเคชัน Life360 เพื่อใช้ติดตามตำแหน่งของกันและกันในอดีต แม้หญิงสาวจะอ้างว่าตอนนี้เธอได้ปิดใช้งานแอปพลิเคชันนั้นไปแล้ว แต่เมื่อเธอเดินทางมาแจ้งเรื่องกับเจ้าหน้าที่ แฟนหนุ่มกลับโกรธเธอมาก และพยายามข่มขู่เพื่อถามว่าเธออยู่ที่ไหน เจ้าหน้าที่จึงแจ้งขอความช่วยเหลือต่อไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ
และเมื่อตำรวจมาถึง ไม่นานนักชายคนดังกล่าวก็ตามมาหาหญิงสาวถูกที่จริง ๆ แต่ที่น่าแปลกใจคือเขากลับไม่เดินเข้ามาในอาคารทันที แต่กลับไปด้อม ๆ มอง ๆ อยู่บริเวณข้างประตูรถของหญิงสาว เมื่อตำรวจเข้าไปตรวจสอบก็พบว่าเขาได้แอบสวม Apple Watch ของเขาไว้บนซี่ล้อรถด้านหน้าฝั่งผู้โดยสาร แล้วจึงใช้นาฬิกาเพื่อติดตามการเคลื่อนไหวของเธอ โดยเขายอมรับว่านาฬิกาเป็นของเขาจริง จึงโดนแจ้งข้อหาใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แอบติดตามผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาตไปแล้วเรียบร้อย
ในช่วงหลังมานี้ Apple ดูจะต้องเจอกับปัญหาผู้ใช้งานใช้อุปกรณ์ในทางที่ผิดอยู่บ่อยครั้ง โดยเฉพาะในกรณีใช้เป็นอุปกรณ์ติดตามผู้อื่น ซึ่งเจอปัญหาบ่อย ๆ กับ AirTag ที่มีรายงานเข้ามามาก เนื่องจากมีขนาดเล็กและออกแบบมาเพื่อเป็นอุปกรณ์ติดตามโดยเฉพาะ (แม้เจตนาจะตั้งใจออกแบบมาเพื่อตามของหาย หรือสุนัขหายก็ตาม) แต่นี่เป็นครั้งแรกที่มีรายงานอย่างชัดเจนว่า แม้แต่ Apple Watch ที่มีขนาดใหญ่กว่ามาก ก็มีคนเอาไปใช้เป็นอุปกรณ์ได้เช่นกัน
ซึ่งทาง Apple เองหลังจากที่เจอกรณีดังกล่าวก็ไม่นิ่งนอนใจ ไม่นานก็ออกมาสร้างความมั่นใจและปกป้องผู้ใช้งานด้วยการออกอัปเดตที่ช่วยป้องกันการใช้อุปกรณ์ติดตามในทางที่ผิดมากขึ้น เช่นปีที่แล้วเปิดตัวฟีเจอร์ที่ส่งแจ้งเตือนให้ผู้ใช้งานที่อยู่ใกล้ ๆ ได้ทราบ ถ้ามี AirTag ของคนแปลกหน้าอยู่ใกล้ และถ้าไม่ได้เชื่อมต่อกับเจ้าของนาน ๆ AirTag ก็จะส่งเสียงเตือน รวมถึงผู้ใช้งาน Android ยังสามารถดาวน์โหลดแอป Tracker Detect ของ Apple ซึ่งจะช่วยให้พวกเขาสามารถสแกนหาอุปกรณ์ Find My Connected ที่ไม่ต้องการในบริเวณใกล้เคียงได้
ขอบคุณข้อมูลจาก
ข่าวแนะนำ
-
จีนทดลองวิ่งรถบรรทุกไร้คนขับ
- 08:11 น.
-
จีนเร่งพัฒนาจรวดขนส่งไปดวงจันทร์
- 20/6/67