TNN ผ้าคาดศีรษะอัจฉริยะ Muse ช่วยในการนอนหลับอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

TNN

Tech

ผ้าคาดศีรษะอัจฉริยะ Muse ช่วยในการนอนหลับอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ผ้าคาดศีรษะอัจฉริยะ Muse ช่วยในการนอนหลับอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

Muse ผ้าคาดศีรษะอัจฉริยะเชื่อมต่อกับอุปกรณ์สมาร์ตโฟนช่วยในการนอนหลับอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ปัญหานอนไม่หลับหรือการนอนหลับไม่เพียงพอเป็นปัญหาสำคัญของใครหลายคนโดยเฉพาะวัยทำงานที่ต้องมีการนอนหลับที่เพียงพอเพื่อให้สมองสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ล่าสุดบริษัทเอกชนในประเทศแคนาดาพัฒนา Muse ผ้าคาดศีรษะอัจฉริยะช่วยในการนอนหลับและตรวจสอบคลื่นสมองในขณะที่ผู้สวมใส่นอนหลับ หนึ่งในเทคโนโลยีทันสมัยที่เข้ามามีบทบาทในชีวิตของผู้คนแม้กระทั่งในช่วงเวลาพักผ่อนนอนหลับ


การออกแบบ Muse ผ้าคาดศีรษะอัจฉริยะเน้นความสะดวกสบายในการสวมใส่เป็นอันดับหนึ่งเพื่อความสบายในการนอนหลับ ขณะเดียวกันก็เพียบพร้อมไปด้วยเทคโนโลยีทันสมัยสามารถตรวจสอบคลื่นสมองเชื่อมต่อกับอุปกรณ์สมาร์ตโฟนเพื่อทำการเก็บข้อมูลประสิทธิภาพในการนอนหลับ ผู้สวมใส่ Muse ผ้าคาดศีรษะอัจฉริยะสามารถตรวจสอบข้อมูลการนอนหลับย้อนหลังของตัวเอง 


นอกจากการตรวจสอบการทำงานของคลื่นสมอง Muse ผ้าคาดศีรษะอัจฉริยะยังสามารถปล่อยคลื่นเสียงที่สามารถช่วยให้ผู้สวมใส่มีความรู้สึกผ่อนคลายและเข้าสู่ภาวะการนอนหลับได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ในกรณีที่ผู้สวมใส่สะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึก Muse ผ้าคาดศีรษะอัจฉริยะก็จะตื่นไปพร้อมกับคุณและเริ่มกระบวนการทำให้ผู้สวมใส่เข้าสู่ภาวะการนอนหลับอีกครั้ง


บริษัทเปิดตัว Muse ผ้าคาดศีรษะอัจฉริยะภายในงาน CES 2020 ปัจจุบันสายคาดศีรษะอัจฉริยะแบ่งออกเป็น 4 รุ่นด้วยกัน โดย 2 รุ่นแรก คือ Muse 2 Headband ออกแบบมาเพื่อใช้งานในกิจกรรมตอนกลางวัน เช่น การนั่งสมาธิ อ่านหนังสือหรือนั่งพักผ่อน และอีก 2 รุ่น คือ Muse S Gen 2 Headband ออกแบบมาเพื่อใช้งานในตอนกลางคืนช่วยให้ผู้สวมใส่นอนหลับอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น


การนอนหลับส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันประสิทธิภาพในการทำงาน ระยะเวลาในการนอนหลับมีความเหมาะสมแตกต่างกันระหว่างบุคคลและช่วงอายุ ในกรณีการนอนหลับที่ไม่สามารถเข้าสู่ภาวะที่เรียกว่านอนหลับไม่ลึก (Non-Rem Sleep) อาจเนื่องมาจากภาวะนอนกรน (Snoring) หรือในกรณีที่ร้ายแรงอาจมีภาวะของการหยุดหายใจขณะนอนหลับ (Sleep Apnea) หากไม่ได้รับการตรวจสอบหรือแก้ไขอย่างถูกต้องอาจส่งผลกระทบต่อการทำงานของระบบในร่างกายอื่น ๆ 



ข้อมูลจาก techcrunch.com 

ภาพจาก choosemuse.com

ข่าวแนะนำ