TNN 'มาโน่' เผยชื่อทีมแกร่งที่สุดในซูซูกิ2020ก่อนดวลสิงคโปร์ส่งท้ายรอบแรก

TNN

กีฬา

'มาโน่' เผยชื่อทีมแกร่งที่สุดในซูซูกิ2020ก่อนดวลสิงคโปร์ส่งท้ายรอบแรก

'มาโน่' เผยชื่อทีมแกร่งที่สุดในซูซูกิ2020ก่อนดวลสิงคโปร์ส่งท้ายรอบแรก

“มาโน่” ย้ำ ทีมชาติไทย ผ่านเข้ารอบรองฯแค่จุดเริ่มต้น ตั้งเป้าคว่ำ สิงคโปร์ เพื่อคว้าแชมป์กลุ่ม แต่อาจดร็อป 3 นักเตะที่มีใบเหลืองติดตัว พร้อมมองคู่แข่งรอบตัดเชือก เวียดนาม แกร่งสุด

ความเคลื่อนไหวทัพ “ช้างศึก” วันที่ 17 ธันวาคม 2564 เวลา 13.00 น. ตามเวลาประเทศไทยสหพันธ์ฟุตบอลอาเซียน จัดงานแถลงข่าวก่อนการแข่งขันฟุตบอล เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มเอ นัดสุดท้าย คู่ระหว่าง ทีมชาติไทย กับ ทีมชาติสิงคโปร์ แบบออนไลน์


มาโน่ โพลกิ้ง กุนซือทีมชาติไทย กล่าวว่า "เกมนี้ถือเป็นเกมที่สำคัญสำหรับทุกคนในทีม ผมคิดว่ามันแตกต่างจากที่ผ่านมา เพราะเราผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศได้แล้ว ตอนนี้เลยไม่ค่อยกดดัน แต่มันยังสำคัญตรงที่ว่าเราต้องการคว้าชัยชนะเพื่อให้ได้แชมป์กลุ่ม การคุมทีมชาติไทยลุยรายการนี้ ผมภูมิใจมากเพราะนี่คืองานในฝันของผม แต่สิ่งที่ต้องชื่นชมคือนักเตะทุกคนพยายามปรับตัวกับแผนของผมในระยะเวลาอันสั้น แต่แน่นอนว่ายังมีอีกหลายสิ่งที่ต้องแก้ไข และทำให้ดีกว่านี้ด้วยระยะเวลาอันสั้น ทั้งแนวทางการเล่น สไตล์ และแนวทาง การมาคุมทีม ผมขอชื่นชมทุกคน ที่พยายามทำเต็มที่และทำตามแนวทาง”

'มาโน่' เผยชื่อทีมแกร่งที่สุดในซูซูกิ2020ก่อนดวลสิงคโปร์ส่งท้ายรอบแรก

“นี่เป็นแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น การเข้ารอบรองฯ ถือเป็นเป้าหมายขั้นต่ำ ผมรู้ดีว่าคุณภาพ และความมุ่งมั่น เราสามารถเข้ารอบชิง และคว้าแชมป์มาครองได้ นั่นคือเป้าหมายสูงสุด และเราก็มีเป้าหมายเดียวกัน ตอนนี้เราได้ให้นักเตะที่ได้เล่นมาส่วนใหญ่ได้พักร่างกาย ตอนนี้ทุกคนใกล้ฟิตสมบูรณ์แล้ว และเกมนี้มันสำคัญ เราต้องเช็คความพร้อมของทุกคนว่ามีใครเจ็บ หรือใครพร้อมขนาดไหน เราต้องเช็ค ส่วนคนที่ติดใบเหลืองเราต้องคิดกันอีกที ที่ตอนนี้เรามีสามคน (ชนาธิป, สารัช, วรชิต) เราไม่อยากให้พวกเขาโดนแบนในเกมต่อไป เราต้องตัดสินใจกันอีกครั้ง"


"ด้วยตอนนี้มีนักเตะสองคนที่ลาทีมไป ทำให้เรามีผู้เล่นทั้งหมด 28 คน ซึ่งทั้งหมดก็ฟิตหมด ไม่มีใครบาดเจ็บหรือป่วย และพร้อมสำหรับเกมต่อไป ตอนนี้เราไม่มีใครมีปัญหาอะไรทั้งนั้น เราได้วิเคราะห์สิงคโปร์มาในระดับหนึ่ง ซึ่งถือเป็นทีมที่ค่อนข้างอันตราย มีเกมรับและรุกได้ดี เล่นลูกตั้งเตะได้ดี และได้ประตูจากลูกนิ่งมาหลายครั้ง แน่นอนว่าเขาได้เล่นในบ้านด้วย เขามีข้อได้เปรียบจากการมีแฟนบอลหนุนหลัง และสนามเปิดให้แฟนบอลเข้าชมได้ถึง 10,000 คน มันช่วยนักเตะมีความกระหายในการลงสนามมากขึ้นเล็กน้อย ถือเป็นข้อได้เปรียบของสิงคโปร์"


“นอกจากนั้น เราได้ติดตามทุกเกมของอีกกลุ่มทั้งที่สนาม และทางหน้าจอ ทั้งสามทีมที่ยังมีลุ้น ต่างมีความแข็งแกร่ง โดยผมมองว่า เวียดนามแข็งแกร่งที่สุด โดยแสดงให้เห็นด้วยการที่พวกเขายังไม่เสียประตูเลย และมีความเข้าใจในการเล่นเป็นทีม ส่วนเกมรับก็ทำได้ดี และถ้าเทียบกับฟอร์มในคัดบอลโลกที่ผ่านมาของพวกเขา แม้เวียดนามจะแพ้มารวด แต่การได้ไปเล่นในฟุตบอลระดับสูง ทำให้พวกเขาแข็งแกร่ง และมีประสบการณ์ ในศึกชิงแชมป์อาเซียน ฟอร์มของเขาถือว่าสม่ำเสมอ แต่ผมไม่ได้กังวลว่าจะต้องเจอกับทีมไหน เพราะทั้งสามทีมต่างยังมีลุ้น เราต้องโฟกัสตัวเอง เพราะเป้าหมายของเราคือการเป็นแชมป์"


"เรื่องเป้าหมาย ถ้าเราบอกว่าขั้นต่ำคือการคว้าแชมป์ เหมือนไม่ให้เกียรติชาติอื่นๆ เพราะว่าทุกทีมต่างแข็งแกร่ง การวางเป้าหมายขั้นต่ำคือการเข้ารอบรองฯ เพราะเราเองมีเป้าหมายใหญ่อยู่แล้วนั่นก็คือแชมป์ เราต้องมีเป้าหมายขั้นต่ำและเป้าหมายสูงสุดเสมอ เพราะทุกคนรู้ดีว่าเราสามารถเป็นแชมป์ได้ และเดินหน้าไปทีละก้าว"


สำหรับโปรแกรม ทีมชาติไทย จะพบกับ ทีมชาติสิงคโปร์ ที่สนามกีฬาแห่งชาติสิงคโปร์ ในวันที่ 18 ธันวาคม 2564 เวลา 19.30 น. ตามเวลาประเทศไทย

ข่าวแนะนำ