ประเด็นร้อนบอลไทย : ผลเสมอของไทยจากอินโดฯแท้จริงมันคือแพ้!
ประเด็นร้อนบอลไทย ฉบับที่ 49 ไปดูกันว่าผลเสมอกับ อินโดนีเซีย ในคัดบอลโลก รอบสอง นัดที่ 6 มันส่งผลต่อความเสียหายที่จะมุ่งหน้าเข้าสู่รอบ 12 ทีมสุดท้ายมากมายขนาดไหน!
สวัสดีครับ! ห่างหายไปนานกับคอลัมน์ "ประเด็นร้อนบอลไทย" วันนี้ผมคงต้องขอกลับมาเขียนอีกครั้งในฉบับที่ 49 หลังจบเกมคัดบอลโลก 2022 รอบสอง นัด 6 ที่ทีมชาติไทยทำได้แค่เสมอกับอินโดนีเซีย 2-2 แบบชนิดที่แฟนบอลชอกช้ำ นอนกันแทบไม่หลับเลยทีเดียว ซึ่งผลเสมอในนัดนี้ เปรียบเหมือนความพ่ายแพ้เลยทีเดียว เนื่องด้วยโอกาสที่เราจะเข้ารอบเป็นอันดับ 1 แทบจะไม่มีแล้วในเวลานี้ ส่วนอันดับสองที่ดีที่สุด 4 จาก 8 ทีม ต้องยอมรับว่าเป็นเรื่องยาก เพราะเราต้องตัดออก 4 แต้ม ที่ได้มาจากอินโดฯ เนื่องด้วย เกาหลีเหนือถอนทีม
นัดนี้ เป็นอีกเกมที่ผมตั้งตารอคอย หลังช้างศึกห่างหายจากโปรแกรมทางการในนามทีมชาติไปยาวนานถึง 17 เดือนเต็ม ตั้งแต่เสมอกับเวียดนาม 0-0 เมื่อเดือน พ.ย. ปี 2019 โดยก่อนการแข่งขัน ตอนที่ผมเห็นรายชื่อ มันมีความรู้สึกเซอไพรส์มาก จากการที่เห็นแข้งหน้าใหม่ที่อยากเห็นหลายต่อหลายคน โดยเฉพาะ "เจ้ากัน" ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร แข้งจากเลสเตอร์ ซิตี้ ที่มีโอกาสลงเล่นเป็น 11 คนแรก มันทำให้ผมนั่งเฝ้าดูเกมนี้ทุกวินาที ชนิดที่เรียกว่าไม่ไปเข้าห้องน้ำแม้กระที่มีอาการปวดปัสสาวะเลยทีเดียว
มวลรวมของเกมต้องยอมรับว่า เราทำได้ดี แต่ยังดีไม่พอ จะสังเกตว่าทุกครั้งที่ออกนำ เรามักจะมีอาการประมาทหรือตอบสนองช้าลงออกมาทันที ไม่รู้ว่าเป็นเพราะมั่นใจว่าจะเผด็จศึกทางอินโดนีเซียได้ง่ายๆหรือเปล่า ? อันนี้ไม่แน่ใจ แต่ปัญหาเกมรับ มันส่งผลต่อทีมไทยมากจริงๆในวันนี้ คนที่ดูดีที่สุดคือ นฤบดินทร์ ซึ่งก็ยังไม่ได้ที่สุดด้วย แม้จะมีสกอร์ก็ตาม ส่วนเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ ทั้ง สุพรรณ ทองสงค์ และ มานูเอล ทอม ยังมีจังหวะหลุดให้เห็นอยู่บ้าง โดยเฉพาะ สุพรรณ แต่ก็น่าจะเป็นความฟิต ที่ยังไม่เต็มที่ เนื่องด้วยเจ้าตัวบาดเจ็บไปนานเหมือนกันในรอบปีที่ผ่านมา ส่วน เอร์เนสโต้ ภูมิภา ในฝั่งซ้าย กลายเป็นจุดบอด ที่ค่อนข้างจะกั๊กมาก หลุดตำแหน่งบ่อย ยิ่งประตูที่สองที่ไทยเสียประตู เจ้าตัวหายจากพื้นที่รับผิดชอบ ตรงนี้ต้องโดนตำหนิอย่างชัดเจน
ผมได้พรีวิวผ่านทางเว็บไซต์ของ TNN ไปแล้วว่าเกมนี้มันไม่ง่าย มันจะต่างกับ อินโดฯ ที่เราเคยบุกไปถลุง 3-0 ในนัดที่สอง เนื่องด้วยพวกเขามีการเปลี่ยนโค้ช แล้วโค้ชอย่าง ชิน แทยอง ไม่ธรรมดา เคยพาเกาหลีใต้เอาชนะ เยอรมัน ในฟุตบอลโลกมาแล้ว นัดนี้พวกเขา มีตัวเก๋าเพียงคนเดียวก็คือทางด้าน อิวาน ดิมาส แต่ก็ยั๊งงง จะแผลงฤทธิ์ใส่เราได้ ส่วนที่เหลือเป็นตัวดาวรุ่งอายุน้อย ที่พวกเขาเตรียมทีมไว้เล่นทัวร์นาเม้นต์ต่อๆไป จากการที่ตกรอบไปแล้ว ซึ่งบอลที่ตกไปแล้ว เล่นโดยไม่มีความกดดันอะไร ตัวนักเตะหลายคนอยากทำผลงานให้โค้ชเห็น มันจะเป็นแบบนี้แหละครับ จะเห็นได้เลยว่าทุกคนวิ่งสู้ฟัดสุดๆ โดยเฉพาะในเกมรับ แข็งแกร่งมาก นอกจากนี้ยังมีตัดฟาวล์หนักๆหลายจังหวะ แม้จะโดนใบเหลืองก็ยอม นั่นคือรูปแบบการเล่นของทางอินโดฯ ที่เตรียมตัวมาดีมาก
สิ่งที่อยากจะติง นิชิโนะ ในวันนี้ คือการแก้เกมที่ล่าช้า ตัวแรกกว่าจะเปลี่ยนก็ปาเข้าไปนาที 69 ยิ่ง เอร์เนสโต้ ที่โดนเจาะหลุดตลอด เราทุกคนเห็นว่าเจ้าตัวหมดแรง แต่ยังได้อยู่ในสนามนานถึง 80 นาที ตรงนี้คงต้องโดนต่อว่าอย่างชัดเจน ส่วนเรื่องการจัดตัว คงไม่ว่ากัน เพราะ โค้ชรู้ดีที่สุดว่าควรส่งใครลง จากการที่เก็บตัวฝึกซ้อมกันมาร่วมเดือน หากมีสิ่งใดที่เราจะโทษและน่าเสียดายที่สุดในวันนี้ คือจุดโทษในช่วงทดเจ็บนาทีสุดท้ายของเกม ที่เราไม่ได้ แต่จังหวะนั้นกรรมการ ก็อยู่ใกล้เหตุการณ์ และใจแข็งมากๆ ผมมองว่าหากมีวีเออาร์ เรามีลุ้นนะ เพราะกรรมการคงต้องไปดูและใช้เวลาในการตัดสินใจ แต่พอไม่มีวีเออาร์ ทุกอย่างก็จบ เหตุการณ์นั้นก็ผ่านไป พอมาดูฟุตบอลแบบไม่มีวีเออาร์ ผมว่ามันกลายเป็นเรื่องแปลกไปแล้วนะในยุคนี้
โดยรวมแล้ว ทางอินโดนีเซีย ก็ควรได้รางวัลในความพยายามครับ 1 แต้มของพวกเขา ที่เป็นสิ่งที่ควรได้อย่างชัดเจน จากการเล่นแบบเกิน 100 % ส่วนทีมชาติไทยของเรา เสมอวันนี้เหมือนแพ้ โอกาสเข้ารอบเป็นอันดับ 1 เลิกคิดเลยครับ เพราะเราอยู่อันดับ 3 เหมือนเดิมก็จริง แต่ทาง ยูเออี เค้าชนะ มาเลเซีย 4-0 ดีดขึ้นมาแซงหน้าเรา ด้วยการมี 9 คะแนนเท่ากัน แต่พวกเขามีโปรแกรมในมืออีกมากถึง 3 นัด เล่นในบ้านตัวเองด้วย ส่วนจ่าฝูงอย่างเวียดนาม วันนี้ไม่ได้แข่ง แต่ก็มีถึง 11 แต้ม และมีโปรแกรมในมืออีกสามเกมเช่นกัน ยิ่งไปกว่านั้น เราเจอกับเค้าไปหมดแล้ว ไม่สามารถไปตัดอะไรโดยตรงได้แล้วด้วย ส่วนการเข้ารอบอันดับสองที่ดีที่สุด 4 จาก 8 ทีม ก็เป็นอะไรที่ยากมาก เพราะต่อให้เราเก็บอีก 6 คะแนน จาก ยูเออี และ มาเลฯ ในสองเกมท้าย เราก็จะมี 11 แต้ม มันคงไม่น่าพอ เนื่องด้วยต้องตัด 4 แต้มในการเจออินโดนีเซียออก จากการที่ เกาหลีเหนือถอนทีม เพราะฉนั้นตรงนี้ผมมองว่ามันจบแล้วถึง 90 % ที่เราจะหยุดเส้นทางไว้แค่นี้
แต่ก็ยังอยากให้ชาวไทยส่งใจไปเชียร์กันต่อนะครับกับอีกสองเกมที่เหลือ ยังมีนักเตะอีกหลายคนที่ฟอร์มการเล่นน่าติดตาม โดยเฉพาะ ธนวัฒน์ ที่ผมคงต้องขอบคุณน้องเค้า ที่เลือกมาเล่นให้ทีมชาติไทย และจะเป็นกำลังสำคัญที่ยิ่งใหญ่ในอนาคตอย่างแน่นอน
NickyMAN (นิก ธีร์ธวัช)