ปิดฉากสุดยิ่งใหญ่ 'เคราร์ด ปีเก้' กับ 'บาร์เซโลน่า'
เคราร์ด ปีเก้ กองหลังบาร์เซโลน่า ประกาศแขวนสตั๊ดเมื่อช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา และได้กล่าวอำลาต่อหน้าแฟนบอลที่สนามคัมป์ นู หลังจากลงเล่นเกมนัดสุดท้ายของตัวเองในฐานะนักฟุตบอลอาชีพให้กับ บาร์เซโลน่า ในเกมชนะอัลเมเรีย 2-0 เมื่อคืนวันเสาร์ ที่ผ่านมา
แนวรับวัย 35 ปี เพิ่งประกาศแขวนสตั๊ดไปเมื่อช่วงกลางสัปดาห์ (3 พ.ย.) หลังจากที่ถูกลดบทบาทไปเป็นเพียงตัวสำรองในฤดูกาลนี้ และมีโอกาสลงสนามน้อยลงอย่างมาก แต่ถึงกระนั้น การประกาศยุติบทบาทนักฟุตบอลของเขาในครั้งนี้ เขาได้ยกค่าเหนื่อยที่สโมสรติดค้างอยู่เป็นจำนวนประมาณ 30 ล้านปอนด์ ให้ด้วย เท่ากับว่าเป็นการช่วยสโมสรเซฟค่าใช้จ่ายอย่างมหาศาล
ปีเก้ ได้โพสต์คลิปลงในโซเชียลมีเดียของตัวเอง และได้กล่าวภายในคลิปอีกด้วยว่า "ถึง กูเลส์ (แฟนบอลบาร์เซโลนา) ผม เคราร์ด"
"ไม่กี่สัปดาห์หรือไม่กี่เดือนที่ผ่านมา มีคนพูดถึงผมมากมาย จนถึงตอนนี้ผมก็ยังไม่ได้พูดอะไรเลย แต่ตอนนี้ ผมอยากเป็นคนพูดเกี่ยวกับเรื่องราวของผม"
"เช่นเดียวกับพวกคุณหลายๆ คน ผมเป็นแฟนบาร์ซ่ามาโดยตลอด ผมเกิดในครอบครัวที่รักฟุตบอลและเป็นแฟนบาร์ซ่า และตั้งแต่อายุยังน้อย ผมไม่ได้แค่อยากจะเป็นนักฟุตบอล ผมต้องการเป็นผู้เล่นของบาร์ซ่า และผมถึงคิดถึงเด็กคนนั้นเมื่อเร็ว ๆ นี้"
"สิ่งที่ เคราร์ด ตัวน้อยคิดในวันนั้น ถ้าเขาได้รับการบอกเล่าว่าความฝันทั้งหมดของเขาจะเป็นจริง ว่าเขาจะทำให้ทีมชุดใหญ่ของบาร์ซา ว่าเขาจะคว้าทุกถ้วยแชมป์ที่ทำได้ ว่าเขาจะเป็นแชมป์ยุโรปและแชมป์โลก ว่าเขาจะเล่นเคียงข้างผู้เล่นที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ ว่าเขาจะกลายเป็นหนึ่งในกัปตันทีม ว่าเขาจะได้เป็นเพื่อนกันตลอดชีวิต เป็นเวลา 25 ปีแล้ว ที่ผมเข้าร่วมทีมบาร์ซ่า ผมเคยจากไปและผมก็ได้กลับมา"
"ฟุตบอลให้ทุกอย่างกับผม บาร์ซามอบทุกอย่างให้ผม กูเลส์ (แฟนบอลบาร์เซโลน่า) ก็ได้ให้ทุกอย่างแก่ผม และตอนนี้ที่ความฝันทั้งหมดของเด็ก ๆ กลายเป็นจริงแล้ว ผมอยากจะบอกคุณว่าฉันได้ตัดสินใจว่าตอนนี้เป็นเวลาที่จะทำให้การเดินทางครั้งนี้สิ้นสุดลงแล้ว"
"ผมพูดเสมอว่าจะไม่เล่นให้ทีมอื่นหลังออกจากบาร์ซ่า และมันจะเป็นอย่างนั้น เกมวันเสาร์นี้จะเป็นเกมสุดท้ายของผมที่คัมป์นู ผมจะเป็นแฟนบอลขาประจำ ผมจะเชียร์ทีม ผมจะส่งต่อความรักที่มีต่อบาร์ซ่าให้กับลูกๆ ของผม เหมือนที่ครอบครัวเคยทำกับผมมาก่อน และคุณก็รู้จักผมดี ไม่ช้าก็เร็วผมจะกลับมาแน่ แล้วเจอกันที่คัมป์นู"
"บาร์ซ่าจงเจริญ ตลอดไป"
ที่มาภาพ : AFP
นั่นเท่ากับว่า แมตช์ในคืนวันเสาร์ที่ 5 พฤศจิกายน 2022 เกมที่บาร์เซโลน่า จะเปิดบ้านพบกับ อัลเมเรีย จะเป็นเกมสุดท้ายของชายที่ชื่อว่า เคราร์ด ปีเก้ กับสโมสรที่เขารักมากที่สุด
โดยเกมนี้ บาร์เซโลน่า ได้สองประตูในช่วงครึ่งหลังจาก อุสมาน เดมเบเล่ นาทีที่ 48 และ แฟรงกี้ เดอ ยอง นาทีที่ 62 แต่ไฮไลท์สำคัญของเกมอยู่ที่ตอน ปีเก้ โดนเปลี่ยนตัวออกในนาทีที่ 85 ซึ่งเจ้าตัวได้รับเสียงปรบมือดังกึกก้องทั้งสนาม ก่อนเดินไปสวมกอดบรรดาเพื่อนร่วมทีม รวมถึงนักเตะคู่แข่งบางราย และหลังจากจบเกม ปีเก้ ได้รับเกียรติให้กล่าวต่อหน้าแฟนบอลทั้ง 9 หมื่นคนที่เข้ามาชมเกมในสนาม
"ก่อนอื่นเลย ผมต้องขอบคุณเพื่อนร่วมงานทุกคน ทั้งสต๊าฟฟ์, คนในยิม ทุกๆ คนที่ช่วยเราในทุกๆ วัน ให้ทุกๆ อย่างง่ายขึ้น ต้องขอบคุณบอร์ดด้วยสำหรับตลอดหลายปีที่ผ่านมา" ปีเก้ เริ่มกล่าว
"ในชีวิตของเรา เมื่ออายุมากขึ้น คุณจะได้รู้ว่าบางครั้งรักคือการต้องปล่อยมันไป ความสัมพันธ์มันคือความรักที่มากมาย ความผูกพันที่มากมาย"
"ผมคิดว่ามันถึงเวลาที่จะต้องมีที่ว่างระหว่างเรา ให้มีอากาศเข้ามา และผมมั่นใจว่าอนาคตผมจะมาอยู่ที่นี่อีกครั้ง นี่ไม่ใช่การอำลา ผมเคยจากไปเมื่อหลายปีที่แล้ว และผมก็กลับมาแล้ว ผมเกิดที่นี่ และผมจะตายที่นี่"
สำหรับผลงานของ เคราร์ด ปีเก้ เขาได้ลงสนามรับใช้ บาร์เซโลน่า ในทุกรายการไปทั้งสิ้น 616 นัด ทำได้ 53 ประตู และทำ 16 แอสซิสต์ นับตั้งแต่ย้ายกลับมาจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในปี 2008 สำหรับการลงเล่น 616 นัด ทำให้ ปีเก้ รั้งอันดับห้า ผู้เล่นที่ลงสนามรับใช้ บาร์เซโลน่า มากสุดตลอดกาล ต่อจาก ลิโอเนล เมสซี่ (778), ชาบี้ (767), เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ (695) และ อันเดรส อิเนียสต้า (674)
นอกจากนี้ ปีเก้ ประสบความสำเร็จอย่างมหาศาลกับ บาร์เซโลน่า ในแง่ถ้วยรางวัลอีกด้วย โดยเจ้าตัวคว้าแชมป์รวมได้ถึง 30 รายการ ดังนี้
- ลา ลีกา (8 สมัย) : 2008-09, 2009-10, 2010-11, 2012-13, 2014-15, 2015-16, 2017-18, 2018-19
- โกปา เดล เรย์ (7 สมัย) : 2008-09, 2011-12, 2014-15, 2015-16, 2016-17, 2017-18, 2020-21
- ซูเปร์โกปา เด เอสปันญ่า (6 สมัย) : 2009, 2010, 2011, 2013, 2016, 2018
- ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก (3 สมัย) : 2008-09, 2010-11, 2014-15
- ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ : 2009, 2011, 2015
- ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ : 2009, 2011, 2015
ขณะที่กับทีมชาติสเปนนั้น ปีเก้ มีสถิติลงเล่น 102 นัด ทำได้ 5 ประตู (ช่วงปี 2009-2018) โดยเป็นหนึ่งในกำลังสำคัญชุดคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2010 และ ยูโร 2012
ถึงแม้ ปีเก้ อยู่กับ บาร์เซโลน่า ตั้งแต่ปี 1997 สมัยเป็นนักเตะเยาวชน แต่ต้องไม่ลืมว่า เขาเคยถูกสโมสรยักษ์ใหญ่ในอังกฤษอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ดึงไปปั้นต่อในปี 2004 โดยถึงแม้ ปีเก้ ไม่สามารถแจ้งเกิดกับ "ปีศาจแดง" ได้ จนต้องย้ายกลับ บาร์เซโลน่า ในปี 2008 แถมมีหนึ่งซีซั่น (2006/07) ที่ถูกปล่อยตัวให้ เรอัล ซาราโกซ่า ยืมใช้งาน แต่เจ้าตัวก็มีประสบการณ์ดีๆ ในถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เพราะได้แชมป์ พรีเมียร์ลีก กับ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในซีซั่น 2007/08 พร้อมกับฝากสถิติลงเล่นให้ทีมของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน 23 นัด ทำได้ 2 ประตู