“ตู้น้ำเย็น” ดูดนักเรียนตรัง อ.เจษฏ์แนะ 7 ข้อควรทำตาม ป้องกันเกิดเหตุซ้ำ
“ตู้น้ำเย็น” ดูดนักเรียนตรังเสียชีวิต ภัยเงียบไม่ควรมองข้าม อ.เจษฏ์แนะ 7 ข้อควรทำตาม ไม่เกิดเหตุซ้ำ หากไม่ดูแลอาจมีการสูญเสียเพิ่ม
จากกรณีในโลกโซเชียลมีเดียลมีการแชร์คลิปอุบัติเหตุ ของเด็กนักเรียนในโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดตรังถูกไฟฟ้าจากตู้เย็นผลิตน้ำดื่ม ดูดจนเสียชีวิต ทั้งนี้คาดว่าเหตุที่เกิดขึ้นมาจากกระแสไฟฟ้ารั่ว
ล่าสุด รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ ระบุทางเฟซบุ๊ก Jessada Denduangboripant ถึงกรณีดังกล่าวว่า ตามรายงานข่าว พูดถึงคลิปเหตุการณ์ที่มีเด็กนักเรียนชายถูกกระแสไฟฟ้าช็อต เสียชีวิตติดคาตู้ผลิตน้ำดื่ม ภายในโรงเรียนระดับมัธยมศึกษาแห่งหนึ่ง ของอำเภอกันตัง จังหวัดตรัง ในช่วงที่มีฝนตกลง
ช่วงแรกไม่มีใครกล้าเข้าไปดึงตัวออกมา เนื่องจากห่วงจะถูกกระแสไฟฟ้าช็อตด้วย จนกระทั่งผ่านไปเกือบ 2 นาทีของคลิป จึงมีคนนำผ้าขาวม้ามาจับที่ข้อเท้า และลากตัวออกมา ก่อนรีบนำตัวส่งโรงพยาบาล แต่ผู้บาดเจ็บก็ได้เสียชีวิตลงในที่สุด... เบื้องต้นเชื่อว่า คงเกิดจากกระแสไฟฟ้ารั่ว บริเวณตู้น้ำและก๊อกน้ำดังกล่าว ประกอบกับพื้นผิวอาจเปียกแฉะน้ำฝน จึงทำให้เกิดกระแสไฟฟ้ารั่ว จนช็อตนักเรียนเสียชีวิตดังกล่าว
เหตุการณ์แบบนี้เคยเกิดขึ้นหลายครับแล้วครับ และจำเป็นที่ทุกโรงเรียน หน่วยงาน และสถานที่ต่างๆ ที่มีการติดตั้ง "ตู้น้ำดื่ม" ซึ่งมีการเดินกระแสไฟฟ้าด้วย จะต้องใส่ใจดูแล ตั้งแต่การเลือกใช้ ติดตั้ง และซ่อมบำรุง ให้ได้มาตรฐานและปลอดภัยต่อผู้ใช้
ตลอดจน ต้องคอยฝึกอบรมการรับมือกับเหตุฉุกเฉินเช่นนี้ด้วยครับ อย่าประมาท ! ขอนำเอา "ข้อควรปฏิบัติของการวางตู้น้ำเย็นบริโภคให้ปลอดภัย" ของกระทรวงอุตสาหกรรม มาให้อ่านกัน
ข้อควรปฏิบัติ
- เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่แสดงเครื่องหมาย มอก.
- ติดตั้งในบริเวณที่แห้ง ฝนสาดไม่ถึงและไม่ถูกแสงแดด
- มีการเชื่อมต่อสายดิน
- ที่ตั้งของเต้ารับหรือขั้วต่อจะต้องอยู่บนกำแพงหรือวางให้พ้นมือเด็ก
- เต้าเสียบหรือขั้วต่อ ต้องแน่นไม่หลวมง่าย
- มีการติดตั้งระบบป้องกันไฟรั่ว
- หมั่นตรวจสอบความปลอดภัยอย่างสม่ำเสมอ
ข้อควรระวัง
- หากใช้แล้วเกิดความร้อน มีประกายไฟ ควรหยุดใช้งานทันที เพระอาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้
- เพื่อความปลอดภัย ต้องเลือกใช้ตู้น้ำเย็นบริโภค ที่ได้รับการรับรองคุณภาพจาก มอก. เท่านั้น
ข้อมูลจาก: Jessada Denduangboripant
ภาพจาก: Jessada Denduangboripant / AFP