สรุปประเด็นดราม่า "ครูพี่แอน" สถานทูตสหรัฐฯยืนยันเข้าประเทศไม่มีลัดคิว
สรุปประเด็นดราม่า "ครูพี่แอน" สถานทูตสหรัฐฯยืนยันชาวต่างชาติทุกคน ทุกสัญชาติต้องถือพาสปอร์ตเข้าประเทศตามขั้นตอน-ใช้เกณฑ์เดียวกัน ไม่มีข้อยกเว้น
จากกรณีประเด็นร้อนในโลกออนไลน์เกี่ยวกับการเดินทางเข้าประเทศสหรัฐอเมริกาของ ครูพี่แอน ติวเตอร์สอนภาษาอังกฤษชื่อดัง
ล่าสุด เฟซบุ๊ก U.S. Embassy Bangkok สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ได้โพสต์ข้อความเรื่อง Today's Travel Tip: ทุกคนต้องแสดงเอกสารการเดินทางที่ถูกต้องเพื่อผ่านขั้นตอนการเข้าประเทศ โดยระบุข้อความว่า U.S. TRAVEL TIP พอไปถึงสหรัฐฯ ทุกคนต้องแสดงเอกสารการเดินทางที่ถูกต้อง เพื่อผ่านขั้นตอนการเข้าประเทศ
ชาวต่างชาติทุกคน ทุกสัญชาติ จะต้องถือพาสปอร์ตเพื่อเดินทางเข้าอเมริกา
เจ้าหน้าที่ ตม. สหรัฐฯ จะเช็กข้อมูลการเดินทางของชาวต่างชาติทุกคน โดยใช้เกณฑ์เดียวกัน ไม่มีข้อยกเว้น
ถึงแม้จะมีเอกสารและวีซ่าครบถ้วน แต่จะได้เข้าประเทศหรือไม่ ท้ายที่สุดแล้ว จะขึ้นอยู่กับการตัดสินของเจ้าหน้าที่ ตม.
อย่างไรก็ตาม ต่อมาทาง"ครูพี่แอน" ได้โพสต์คลิปเผยแพร่ พร้อมระบุว่า พี่แอนขออนุญาตใช้พื้นที่ตรงนี้เพื่อชี้แจงเรื่องราวที่เกิดขึ้นที่สนามบินในอเมริกานะคะ ว่าเกิดอะไรขึ้น ด้วยความที่พี่แอนได้มีการพิมพ์ข้อความสั้นๆใน Twitter จึงทำให้เกิดความเข้าใจผิดไปค่ะ คลิปนี้ขออนุญาตเล่าเรื่องราวฉบับเต็มนะคะ https://vt.tiktok.com/ZS8Bgj9T8/
พี่แอนขออนุญาตใช้พื้นที่ตรงนี้เพื่อชี้แจงเรื่องราวที่เกิดขึ้นที่สนามบินในอเมริกานะคะ ว่าเกิดอะไรขึ้น ด้วยความที่พี่แอนได้มีการพิมพ์ข้อความสั้นๆใน Twitter จึงทำให้เกิดความเข้าใจผิดไปค่ะ 🙏🏻 คลิปนี้ขออนุญาตเล่าเรื่องราวฉบับเต็มนะคะ https://t.co/d6nQDjsPSo pic.twitter.com/l4jgjPvr2W
— ครูพี่แอน (@englishbykruann) January 18, 2023
นอกจากนี้ยังทวิตข้อความผ่านทาง @englishbykruann โดยระบุว่า ก่อนที่เรื่องราวจะบานปลาย ครูพี่แอนขออนุญาตอธิบายสรุปเพิ่มเติมเป็นประเด็นๆสั้นด้วยนะคะ หวังว่าทุกท่านจะได้ผ่านมาเห็นข้อความของพี่แอน ซึ่งเป็นบุคคลที่อยู่ในสถานการณ์นั้นจริงๆ และเล่าเรื่องราวทั้งหมดจากเหตุการณ์จริง
เนื่องจากข้อความที่ครูพี่แอนได้เขียนใน Twitter อาจทำให้เกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนไป เนื่องจากพื้นที่จำกัดในการเขียนข้อความ ทำให้พี่แอนบอกเล่าเรื่องราวได้ไม่ละเอียดพอ จึงอยากขอโทษที่ทำให้หลายๆ คนเข้าใจผิดนะคะ ตอนนี้ พี่แอนรู้สึกว่าต้องออกมาอธิบายเรื่องราวฉบับเต็มจริงๆ ว่าเกิดอะไรขึ้นในสนามบินที่อเมริกาวันนั้น (เป็นการบินในประเทศนะคะ)
พี่แอนขออนุญาตอธิบายเป็นขั้นตอนดังนี้
1. การบินในวันนั้นคือการบินในประเทศค่ะ (เป็นการบินจากหนึ่งรัฐไปอีกหนึ่งรัฐ)
2. ณ จุดที่เจ้าหน้าที่เข้ามาทักเพื่อชวนพี่แอนคุย และลากพี่แอนไปที่เครื่องเช็คอินไม่ใช่ด่านตรวจคนเข้าเมืองนะคะ แต่เป็นจุดก่อนที่จะเข้าแถวเพื่อ scan กระเป๋าใบเล็กที่เราจะนำขึ้นเครื่อง
3. เมื่อเจ้าหน้าที่ลากพี่แอนไปเครื่อง เค้าขอ Driving license พี่แอนทันที แต่มันต้องใช้ใบขับขี่ที่เป็นของคนอเมริกันเท่านั้น ถึงจะทำเรื่องได้ ถ้าไม่ใช่คนอเมริกันจะใช้เครื่องนี้ไม่ได้
4. สรุปคือเจ้าหน้าที่ก็เข้าใจผิดคิดว่าเราคือ American เลยลากเรามา แต่สุดท้ายทำเรื่องไม่ได้ค่ะ เพราะพี่แอนไม่ใช่คนอเมริกัน
5. พี่แอนต้องเดินกลับไปเข้าแถวรวมตามปกติ แล้วเหลือบไปข้างๆ ก็พบว่า มันมีแถว TSA Precheck (คล้ายๆ fast track) แถวพิเศษสำหรับคนอเมริกันที่เช็คอินผ่านเครื่องที่เจ้าหน้าที่ลากพี่แอนไปตอนแรก
6. แถวที่เป็น TSA Precheck คือแถวสั้นๆ ค่ะ เหมือนต่อคิวไม่นานก็ได้ตรวจกระเป๋า ในขณะที่พี่แอนต้องกลับมาต่อคิวยาวๆ ตามปกติ
เรื่องราวทั้งหมดมีเท่านี้เลยจริงๆ สาเหตุที่พี่แอนต้องลบข้อความใน Twitter เนื่องจากมีการตีความคลาดเคลื่อน (ด้วยพื้นที่จำกัดของ Twitter และความไม่ได้คิดอะไรเลยจริงๆตอนเล่าเรื่องของครูพี่แอน) หลายคนนึกว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งใน Twitter พี่แอนไม่ได้เขียนไว้ว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำแหน่งไหน
หากทำให้ใครเข้าใจผิดไป พี่แอนต้อง ขอโทษมา ณ ที่นี้จริงๆค่ะเพราะข้อความใน Twitter ต้องตัดข้อความและเล่าเรื่องให้สั้นลงมากๆ เพื่อให้พี่แอนพิมพ์ข้อความได้เพียงพอ เจตนาของทวิตเตอร์เพียงต้องการจะบอกนักเรียนว่า อเมริกาเป็น ประเทศที่มีคนปะปนมากจริงๆ ไม่เหมือนเมืองไทยที่ คนไทยจะต้องผมดำเท่านั้น ไม่แปลกเลยถ้าเค้าจะ เข้าใจผิดว่าหน้าเอเชียอย่างพวกเราเป็นคนอเมริกันนะ
ก่อนที่เรื่องราวจะบานปลาย ครูพี่แอนขออนุญาตอธิบายสรุปเพิ่มเติมเป็นประเด็นๆสั้นด้วยนะคะ 🙏🏻 หวังว่าทุกท่านจะได้ผ่านมาเห็นข้อความของพี่แอน ซึ่งเป็นบุคคลที่อยู่ในสถานการณ์นั้นจริงๆ และเล่าเรื่องราวทั้งหมดจากเหตุการณ์จริง pic.twitter.com/FIesdDJ7Th
— ครูพี่แอน (@englishbykruann) January 18, 2023
ข้อมูลจาก ครูพี่แอน @englishbykruann / เฟซบุ๊ก U.S. Embassy Bangkok
ภาพจาก AFP (แฟ้มภาพ) / เฟซบุ๊ก U.S. Embassy Bangkok