กองสลากฯ ตัดสิทธิโควตาลอตเตอรี่ 2.5 หมื่นราย ลุยออนไลน์ขาย 80 บาท แก้หวยแพง

วันนี้ (8 ธ.ค.64) นายธนวรรธน์ พลวิชัย กรรมการและโฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยถึงแนวทางการแก้ปัญหาสลากฯ ราคาแพงว่า สำนักงานสลากฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจ และกำลังดำเนินมาตรการแก้ปัญหาหลายด้านควบคู่กัน 

ทั้งในการพิจารณาเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสลากฯใหม่ เพื่อเพิ่มทางเลือกให้ผู้ขายและผู้ซื้อ ควบคู่กับใช้มาตรการทางกฎหมายตัดสิทธิ จับกุมผู้ที่ขายสลากฯเกินราคา หรือได้รับสลากฯ แต่ไม่ได้ขายเอง และจะมีการนัดแถลงใหญ่ถึงแนวทางแก้ปัญหาสลากฯเกินราคาในวันที่ 23 ธ.ค.นี้

โดยจะเป็นการแถลง แนวทางการแก้สลากฯแพงแบบครบวงจรทั้งหมด ซึ่งจะเริ่มทำตั้งแต่ปีหน้า ขณะที่การออกผลิตภัณฑ์สลากฯใหม่ จะเริ่มเปิดประชาพิจารณ์รับฟังความเห็นต้นปีหน้า เพื่อนำข้อมูลมาประกอบการตัดสินใจว่าควรจะทำผลิตภัณฑ์ใหม่ออกมาหรือไม่ หรือหากทำแล้วควรทำออกมารูปแบบใด แต่ยืนยันว่าถึงแม้จะมีผลิตภัณฑ์ใหม่ออกมา สำนักงานสลากฯ จะยังดูแลผู้ค้ารายย่อยให้มีอยู่ในระบบต่อไป

นอกจากนี้ ช่วงปี 65 สำนักงานสลากฯ จะมีการขยายโครงการร้านลอตเตอรี่ GLO 80 บาทออกไปทั่วประเทศ หลังจากมีการทดลองเปิดขายในเขตกรุงเทพฯ และนนทบุรี แล้วตั้งแต่ 1 ก.ค.64 ซึ่งพบได้รับความนิยมจากประชาชน และช่วยเป็นทางเลือกให้ประชาชนเข้าถึงลอตเตอรี่ราคา 80 บาทได้ 

จึงจะมีการขยายให้ครอบคลุมหลายพื้นที่ยิ่งขึ้น และจะเปิดรับสมัครคัดเลือกตัวแทนในเร็วๆ นี้ ขณะเดียวกัน กำลังพิจารณาจัดทำแพลทฟอร์มขายสลากฯออนไลน์ขึ้น อำนวยความสะดวกให้กับผู้ซื้อที่นิยมซื้อผ่านช่องทางออนไลน์

นายธนวรรธน์ ยอมรับว่า ระยะหลังการจำหน่ายสลากฯ ผ่านแพลทฟอร์มออนไลน์ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น แต่แพลทฟอร์มที่สำนักงานสลากฯ ทำ จะแตกต่างจากแพลทฟอร์มของเอกชน เพราะในส่วนของเอกชนทำขึ้นเพื่อเน้นการตัดคนกลาง หรือผู้ขายรายย่อยออกจากระบบ 

แต่สำนักงานสลากฯ จะทำขึ้นเพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ค้ารายย่อย ผู้พิการ หรือผู้มีโควตา เข้ามาขายผ่านช่องทางแพลทฟอร์มออนไลน์ ซึ่งเป็นการเกื้อหนุนให้คนขายรายย่อยมีช่องทางขายเพิ่ม ที่สำคัญจะจำหน่ายใบละ 80 บาท

ในส่วนของการยกเลิกสิทธิการเป็นผู้ซื้อ-จองล่วงหน้าสลากกินแบ่งรัฐบาล ยอดตั้งแต่ปี 59 ถึงวันที่ 30 พ.ย. 64 ได้ตัดสิทธิไปแล้ว 17,369 ราย ขณะที่การตัดสิทธิตัวแทนทั้งรายย่อย สมาคม และผู้พิการ ตั้งแต่เดือน ม.ค.-พ.ย.64 พบตัวแทนไม่ปฏิบัติตามสัญญา ขายเกินราคา ขายออนไลน์ รวมแล้ว 8,050 ราย รวมทั้งบุคคล และองค์กร กว่า 2.5 หมื่นราย

ภาพจาก ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย , TNN ONLINE