นักวิชาการไซเบอร์ ไข 3 สาเหตุ ถูกดูดเงินจากบัญชีธนาคารไม่รู้ตัว
นักวิชาการความมั่นคงทางไซเบอร์ ชี้ “ถูกหักเงินจากบัญชี” เกิดขึ้นจาก 3 ส่วน แนะวิธีไม่ให้เกิดซ้ำ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องหาทางแก้ไขอย่างจริงจัง
วันนี้ (18 ต.ค.64) นายไพบูลย์ อมรภิญโญเกียรติ นักวิชาการด้านความมั่นคงทางไซเบอร์ เปิดเผยผ่านรายการเจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand เกี่ยวกับกรณี ที่มีผู้เสียหายนับหมื่นรายเจอปัญหาการผูกกับบัญชีธนาคาร “บัตรเครดิต” และ “บัตรเดบิต” แต่กลับถูกหักเงินในบัญชีหลายครั้ง สูญเสียเงินตั้งแต่หลักสิบไปจนถึงหลักแสนบาทนั้น
โดยนายไพบูลย์ อธิบายว่าปัญหานี้เกิดจาก 3 ส่วน ได้แก่ ส่วนแรก ต้องมาดูที่ธนาคารว่าระบบแจ้งเตือนของธนาคารมีปัญหาจริงไหม หรือถูกแฮกข้อมูลจริงหรือไม่ ส่วนที่สอง ตามกระแสข่าวที่บอกว่ามีแอปพลิเคชั่นที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และสมาคมธนาคารไทย ชี้แจ้งเบื้องต้นว่าเป็นการลงทะเบียนในต่างประเทศ ซึ่งต้องมาดูว่าผู้เสียหายนั้น ได้ไปลงทะเบียนในแอปฯ จริงหรือไม่ หรือหากมีการลงทะเบียนจริงแอปฯ พวกนี้ในต่างประเทศที่มีการดูดเงินมีจริง
ส่วนที่สาม คือ ผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ เวลาเจอข้อความอะไรเข้ามาแล้วชอบกดเข้าไปดู หรือ ผู้ใช้งานบ้างคนชอบดาวน์โหลดคลิปอะไรแปลกๆ มาดู ก็จะถูกไวรัสเข้าไปติดตั้งในระบบได้
ดังนั้น ประเด็นที่เป็นข่าวในปัจจุบัน ส่วนตัวอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบอย่างจริงจังว่าเกิดปัญหาจากแบงก์ หรือ เกิดจากแอปฯ ต่างประเทศ หรือ จากผู้ใช้งานเอง เพราะครั้งนี้มีข้อน่าสังเกตว่ามีคนเสียหายเป็นหมื่นๆ ราย ซึ่งเมื่อเกิดขึ้นเป็นวงกว้างระบบธนาคารน่าจะมีการแจ้งเตือน โดยหลักจะต้องเป็นอย่างนั้น ซึ่งหากไม่มีการแจ้งเตือนถือว่า ผิดปกติ เพราะว่ามีคนเสียหายเป็นหมื่นๆ ราย
"ส่วนตัวผมอยากให้ปัญหาลักษณะดังกล่าว ไม่เกิดขึ้นอีก ฉะนั้น ผู้ที่เกี่ยวข้องต้องมานั่งประชุมทุกเดือน หากย้อนดูตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา เจอปัญหาแบบนี้จำนวนมาก ซึ่งหน่วยงานที่กำกับดูแลมีกฎหมายดูแลต้องเข้ามาดูอย่างจริงจัง" นายไพบูลย์ กล่าว
ด้าน กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) หรือ Cyber Crime Investigation Bureau (CCIB) โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊กระบุถึงกรณีดังกล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น น่าเชื่อว่าสาเหตุเกิดมาจากมีผู้ร้ายเข้าถึงข้อมูลบัตรเครดิตหรือเดบิต อาจจะเกิดมาจากการขโมยดูเลขบัตร หรือแอปฯ หรือเว็บไซต์ขายของที่ไม่น่าเชื่อถือ ได้ข้อมูลไป
ผู้เสียหายสามารถแจ้งความได้ที่สถานีตำรวจท้องที่ที่เกิดเหตุหรือที่สะดวกทั่วประเทศไทย และสามารถประสานกับทางธนาคาร ตามหมายเลขสายด่วน Hotline
ภาพจาก TNN ONLINE