สหประชาชาติ ยก ‘ซีพี’ ติดอันดับผู้นำองค์กรยั่งยืนระดับโลก UNGC ระดับ LEAD
สหประชาชาติ ยก ‘ซีพี’ ติดอันดับผู้นำองค์กรยั่งยืนระดับโลก UNGC ระดับ LEAD ชูจุดเด่นขับเคลื่อนนโยบายความยั่งยืนสู่การปฏิบัติ และความเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม
ถือเป็นความภูมิใจบริษัทไทยในเวทีความยั่งยืนโลก หลังสหประชาชาติประกาศรายชื่อองค์กรผู้นำความยั่งยืนระดับโลกจากทุกทวีป รวม 37 องค์กร โดยในเอเชียมีเพียง 3 ประเทศที่ติดระดับผู้นำ คือ ไทย ญี่ปุ่น และจีน ซึ่งเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) เป็นองค์กรไทย 1 ใน 37 องค์กรผู้นำด้านความยั่งยืนโลกด้วย
นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด เปิดเผยว่า ในฐานะบริษัทไทยเครือเจริญโภคภัณฑ์มีความภูมิใจที่ได้รับคัดเลือกให้เป็น Global Compact Lead จากสหประชาชาติ ตอกย้ำให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการประกอบธุรกิจภายใต้หลักการพัฒนาที่ยั่งยืนในทุกมิติ ทิศทางและเป้าหมายความยั่งยืนของเครือเจริญโภคภัณฑ์สู่ปี 2573 ยังมีความท้าทายที่เด่นชัดและเป็นปัญหาใหญ่ของโลกคือเรื่องของสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ โดยเฉพาะปัญหาโลกร้อน ปัญหาเรื่องมลภาวะทั้งในอากาศ ในน้ำ และบนดิน
ถือเป็นวาระใหญ่ของโลกที่เครือเจริญโภคภัณฑ์ไม่อาจนิ่งนอนใจได้ และในวาระที่เครือเจริญโภคภัณฑ์จะก้าวสู่ศตวรรษใหม่ของการดำเนินธุรกิจ จึงได้ตั้งเป้าหมายความยั่งยืนที่สำคัญและยิ่งใหญ่ คือการมุ่งสู่การเป็นองค์กรที่ปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็นศูนย์ โดยจะรวมพลังทุกกลุ่มธุรกิจในเครือฯและใช้นวัตกรรมในการพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืนเพื่อไปให้ถึงเป้าหมายที่กำหนด
“เครือเจริญโภคภัณฑ์ มีความมุ่งมั่นที่จะร่วมมือกับ UN Global Compact เพื่อไปสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ หรือ UN Sustainable Development Goals เรามุ่งมั่นที่จะทำให้ตลอดทั้งห่วงโซ่คุณค่าของเรา มีความโปร่งใสสูงสุด” ซีอีโอเครือซีพี กล่าว
ปัจจุบันเครือเจริญโภคภัณฑ์ได้ผ่านเส้นทางสู่เป้าหมายความยั่งยืนระยะที่ 1 มาแล้ว และกำลังมุ่งสู่เป้าหมายความยั่งยืนระยะต่อไปในปี 2573 การที่องค์กรได้รับการยกย่องให้เป็นสมาชิก Global Compact LEADกล่าวได้ว่าเป็นผลมาจากความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องของเครือเจริญโภคภัณฑ์ที่มีต่อข้อตกลงโลกแห่งสหประชาชาติ (United Nations Global Compact) และหลักการทั้ง 10 ประการ รวมถึงการทำงานเชิงรุกด้านความยั่งยืนและผลักดันวาระสำคัญต่าง ๆ อาทิ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ส่งเสริมความหลากหลายทางชีวภาพ ดูแลสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี รวมถึงการสร้างงาน
เครือซีพี ถือเป็นองค์กรที่มีการนำหลักสากล 10 ประการของ UN Global Compact มาบูรณาการในกลยุทธ์และการดำเนินธุรกิจขององค์กร โดยมีการจัดทำยุทธศาสตร์ความยั่งยืน เป้าหมาย นโยบายและแนวปฏิบัติ ที่ครอบคลุมด้านสิทธิมนุษยชน มาตรฐานแรงงาน การปกป้องสิ่งแวดล้อม และการต่อต้านการทุจริต ภายใต้ค่านิยม 3 ประโยชน์ และกรอบการดำเนินงาน 3 ด้านของเครือฯ อันได้แก่
Heart – Living Right, Health – Living Well และ Home – Living Together และมีกระบวนการติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานเทียบกับเป้าหมายอย่างต่อเนื่อง และรายงานผลผ่านรายงานความยั่งยืนเครือเจริญโภคภัณฑ์ ตามมาตรฐาน GRI และเกณฑ์การจัดทำรายงานเพื่อสื่อสารความคืบหน้าของ UN Global Compact ในระดับสูงสุด (Advanced Communication on Progress: CoP) เป็นประจำทุกปี โดยนำเอาเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติทั้ง 17 ประการ มาประกอบการจัดทำยุทธศาสตร์และเป้าหมายความยั่งยืนของเครือเจริญโภคภัณฑ์ สู่ปี 2030
โดยมีเป้าหมายที่สำคัญได้แก่ การเป็นองค์กรที่มีการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) (SDG 13) การลดขยะอาหารและของเสียที่ถูกนำไปฝังกลบเป็นศูนย์ และบรรจุภัณฑ์พลาสติกที่ใช้ทั้งหมดสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ ใช้ซ้ำ หรือย่อยสลายได้ (SDG 12) การส่งเสริมให้ประชาชนทุกเพศทุกวัยได้รับการสนับสนุนโอกาสในการเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพ ส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตเป็นจำนวน 50 ล้านคน (SDG 4) เป็นต้น
จุดเด่นอีกประการหนึ่งที่เครือซีพีได้รับหารจัดอันดับให้เป็น LEAD คือ การสร้างเครือข่ายความร่วมมือด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนร่วมกับทุกภาคส่วน ยกตัวอย่างเช่น
(1) การเข้าร่วมโครงการ Caring for Climate, Race to Zero และ Business Ambition for 1.5oC เพื่อร่วมแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
(2) การร่วมเป็นภาคีสมาชิกของ World Business Council for Sustainable Development (WBCSD) เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาที่ยั่งยืน
(3) การเป็นหนึ่งในองค์กรร่วมก่อตั้ง Global Compact Network Thailand
(4) การเข้าร่วมโครงการ Decent Work in Global Supply Chains
(5) การร่วมปฏิรูปการศึกษาของประเทศผ่านโครงการสานอนาคตการศึกษา CONNEXT ED