ดัน Smart Safety Zone 4.0 นำร่อง 15 สถานี ตร.ป้องอาชญากรรมเชิงรุกดูแลประชาชน
ผบ.ตร. ตั้ง smart safety zone 4.0 นำร่อง 15 สถานีตำรวจ ป้องกันอาชญากรรมเชิงรุก สร้างมิติใหม่ความปลอดภัยให้ประชาชน จ่อขยายเฟส 2 ใช้ทั่วประเทศ
ภาพจาก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.)กล่าวถึงโครงการ สมาร์ทเซฟตี้โซน 4.0 (Smart Safety Zone 4.0) ที่เปิดตัวไปเมื่อวันที่ 21 ก.ย.64 ที่ผ่านมาว่า เป็นโครงการที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ขับเคลื่อนบนตามยุทธศาสตร์ชาติ ด้านความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน และใช้ตัวชี้วัดสากล WORLD INTERNAL SECURITY and POLICE INDEX หรือ WISPI ในการเพิ่มประสิทธิภาพป้องกันอาชญากรรมเชิงรุกนำการปราบปราม โดยคัดเลือกพื้นที่ ที่เป็นแลนด์มาร์ค แหล่งเศรษฐกิจ และพื้นที่ที่ประชาชนมีความหวาดกลัวภัยอาชญากรรม จำนวน 15 พื้นที่ กำหนดสถานีตำรวจที่ดูแลพื้นที่นั้นๆจำนวน 15 สถานี เป็นสถานีนำร่องโครงการทั่วประเทศ
พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวด้วยว่า โครงการสมาร์ทเซฟตี้โซน 4.0 ระยะแรกที่มี 15 สถานีนำร่อง ได้ดำเนินการไปได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยการสนับสนุนของทุกภาคส่วนที่ช่วยกันสร้างมิติใหม่แห่งความปลอดภัย โดยมีความต้องการของประชาชนในพื้นที่นั้นๆ หรือพีเพิลโพล (People Poll) ทำให้ได้ข้อเสนอแนะจากคนในพื้นที่มาพัฒนาการดำเนินโครงการให้เหมาะสมกับแต่ละพื้นที่ ตลอดจนปรับปรุงการทำงานของตำรวจให้ตรงกับสภาพปัญหา และความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริงด้วย
“หัวใจสำคัญของโครงการนี้ไม่ได้อยู่ที่ความทันสมัยของอุปกรณ์เครื่องมือตามรูปแบบเมืองอัจฉริยะเท่านั้น ที่สำคัญเหนือกว่านั้นคือ การแสวงหาความร่วมมือจากภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน เพื่อสร้างกลไกการมีส่วนร่วมในการช่วยป้องกันอาชญากรรมเชิงรุก และสร้างสังคมที่ปลอดภัยอย่างยั่งยืนร่วมกัน” พล.ต.อ.สุวัฒน์ ระบุ
สำหรับโครงการสมาร์ทเซฟตี้โซน 4.0 ผบ.ตร.ได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก รอง ผบ.ตร, พล.ต.อ.ปิยะ อุทาโย รอง ผบ.ตร., ร่วมกับ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. เป็นคณะขับเคลื่อนโครงการมี 15 สถานีนำร่อง ได้แก่ สน.ลุมพินี, สน.ห้วยขวาง, สน.ภาษีเจริญ, สภ.ปากเกร็ด, สภ.เมืองสมุทรปราการ, สภ.เมืองพัทยา, สภ.เมืองระยอง, สภ.เมืองปราจีนบุรี, สภ.ปากช่อง, สภ.เมืองอุดรธานี, สภ.เมืองเชียงใหม่, สภ.เมืองพิษณุโลก, สภ.เมืองราชบุรี, สภ.เมืองภูเก็ต และ สภ.หาดใหญ่
โดยมีการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีทันสมัยมาใช้เพื่อประสิทธิภาพสูงที่สุด และในระยะต่อไป เฟส 2 จะขยายโครงการเข้าสู่ทุกจังหวัดทั่วประเทศ โดยคัดเลือก 1 พื้นที่ 1 จังหวัดเป็นสถานีนำร่องในระยะที่ 2 เพื่อขับเคลื่อนโครงการสมาร์ทเซฟตี้โซน 4.0 ให้เกิดขึ้นทั่วทุกจังหวัด และทุกสถานีต่อไปในอนาคต