TNN แพทย์เตือน! กิน “ยาแก้ปวด” มากเกินไป เสี่ยง “ปวดศีรษะ” ได้

TNN

สังคม

แพทย์เตือน! กิน “ยาแก้ปวด” มากเกินไป เสี่ยง “ปวดศีรษะ” ได้

แพทย์เตือน! กิน “ยาแก้ปวด” มากเกินไป เสี่ยง “ปวดศีรษะ” ได้

อ. นพ.ประกิต อนุกูลวิทยา โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ระบุ การกินยาแก้ปวดมากเกินไป อาจส่งผลให้เกิดอาการปวดศีรษะได้

อ. นพ.ประกิต อนุกูลวิทยา โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ระบุว่า การกินยาแก้ปวดมากเกินไป อาจส่งผลให้เกิดอาการปวดศีรษะได้



โรคปวดศีรษะจากการใช้ยาแก้ปวดมากเกินไป (Medical overuse headache) เกิดจากการที่ผู้ป่วยใช้ยาแก้ปวดบรรเทาอาการปวดศีรษะในปริมาณที่มากเกินไป เป็นผลให้ผู้ป่วยมีอาการปวดศีรษะรุนแรงมากขึ้นในระยะเวลาต่อมา และมีความถี่ของอาการปวดศีรษะแทบทุกวัน ผู้ป่วยอาจมีอาการปวดศีรษะ ต่อเนื่องนานเกิน 3 เดือน โดยเฉพาะผู้ป่วยที่มีประวัติการใช้ยาแก้ป่วดในกลุ่มพาราเซตามอล หรือกลุ่มยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ เกิน 15 วัน/ดือน หรือมีประวัติการใช้ยาแก้ปวดในกลุ่ม เออร์โกตามีน ทรีปแทน หรือโอปีออยด์ เกิน 10 วัน/เดือน


อาการ


อาการปวดศีรษะจะมีความถี่ขึ้น เมื่อใช้ยานานขึ้น

ยาแก้ปวดที่ใช้มีประสิทธิภาพลดลง ที่เคยรับประทานแล้วหายปวดกลับไม่หายปวด

อาการปวดศีรษะจะเกิดขึ้นภายหลังยาแก้ปวดหมดฤทธิ์

ผู้ป่วยจะต้องใช้ขนาดยาแก้ปวดที่เพิ่มขึ้น

ผู้ป่วยอาจมีอาการปวดศีรษะขณะนอนหลับร่วมด้วย เนื่องจากขาดยาในช่วงเวลานอนและทำให้เกิดอาการปวดศีรษะ

วิธีป้องกันอาการปวดศีรษะจากการใช้ยาแก้ปวดมากเกินไป


หยุดหรือลดปริมาณของยาแก้ปวดที่ใช้เกินขนาด

ปรับรูปแบบการดำเนินชีวิต เช่น นอนหลับให้เพียงพอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ลดภาวะเครียดหรือปัจจัยกระตุ้นที่ก่อให้เกิดอาการปวดศีรษะ

ในผู้ป่วยที่มีโรคปวดศีรษะอยู่เดิม เช่น โรคปวดศีรษะไมเกรน ควรปรึกษาแพทย์ เพื่อพิจารณาการใช้ยาและป้องกันอาการปวดศีรษะที่เหมาะสม


แพทย์เตือน! กิน “ยาแก้ปวด” มากเกินไป เสี่ยง “ปวดศีรษะ” ได้


ที่มา : อ. นพ.ประกิต อนุกูลวิทยา

ข่าวแนะนำ