ม.มหิดลประกาศ“งดรับทุนทุกรูปแบบจากบริษัทบุหรี่และเครือข่ายของบริษัทบุหรี่”
มหาวิทยาลัยมหิดล ประกาศนโยบาย “งดรับทุนทุกรูปแบบจากบริษัทบุหรี่และเครือข่ายของบริษัทบุหรี่”
วันนี้ ( 19 มี.ค.64) ศ.นพ.บรรจง มไหสวริยะ อธิการบดี มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยว่า มหาวิทยาลัยมหิดลเล็งเห็นถึงปัญหาการแทรกแซงของบริษัทบุหรี่และองค์กรที่เกี่ยวข้องในการเข้ามาสร้างความสัมพันธ์โดยผ่านการให้ทุนการทำวิจัย การศึกษาดูงาน และการอุปถัมภ์อื่น ที่จะนำมาซึ่งผลประโยชน์ทับซ้อนในการดำเนินกิจการหลักของมหาวิทยาลัย ในการผลิตข้อมูลความรู้และชี้นำสังคมอย่างเป็นกลาง มีอิสระทางวิชาการ มหาวิทยาลัยจึงจัดการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน เพื่อประกาศว่า “มหาวิทยาลัยมหิดลไม่ร่วมมือกับบริษัทบุหรี่และเครือข่ายของบริษัทบุหรี่ในการดำเนินกิจกรรมใด ๆ ทั้งสิ้น” และจะถือโอกาสเชิญชวนมหาวิทยาลัยทุกแห่งในประเทศไทย มาร่วมกันแสดงเจตนารมณ์ที่จะไม่ร่วมมือกับบริษัทบุหรี่เช่นกัน
ด้านรศ.ดร นภเรณู สัจจรักษ์ ธีระฐิติ รองอธิการบดี ฝ่านวิเทศสัมพันธ์ และ สื่อสารองค์กร ให้ข้อมูลเพิ่มเติมถึงนโยบายของมหาวิทยาลัยมหิดล ที่เน้นย้ำบทบาทของการเป็นมหาวิทยาลัยที่มีพันธกิจสำคัญในการให้ความรู้ทางด้านสุขภาพและยังยึดมั่นในการช่วยสื่อสารกับสังคมเพื่อรณรงค์การไม่รับทุนจากบริษัทยาสูบในกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในมหาวิทยาลัย ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยมหิดลจะขับเคลื่อนการเผยแพร่ความรู้และข้อมูลทั้งภายในมหาวิทยาลัยและภายนอกมหาวิทยาลัยเพื่อต่อยอดการเป็นมหาวิทยาลัยแห่งสุขภาพ (Healthy University)
โดยในการจัดงานครั้งนี้ รศ.ดร.นพ.ภูดิท เตชาติวัฒน์ ผู้อำนวยการ สถาบันพัฒนาสุขภาพอาเซียน มหาวิทยาลัยมหิดล และบุคลากรในสถาบันฯ ซึ่งเป็นแม่งาน ในฐานะที่เป็นสำนักงานเลขาธิการของ ASEAN University Network - Health Promotion Network (AUN-HPN ) กล่าวว่า ในปีนี้ทางสถาบันฯ เน้นกิจกรรมการขับเคลื่อนในรูปแบบการสร้างจุดยืนที่ถูกต้องให้กับสังคม เพื่อสร้างองค์ความรู้และการรู้เท่าทันบริษัทยาบุหรี่/ยาสูบ ที่มีกลยุทธ์ในการบิดเบือนการรับรู้ และข้อมูลที่ถูกต้องแก่ นักศึกษา อาจารย์ และนักวิจัยในองค์กร ส่วนงานต่างๆ รวมถึงมหาวิทยาลัยในเรื่องพิษภัยของบุหรี่ ซึ่งปัจจุบันเน้นไปที่ผลิตภัณฑ์บุหรี่ไฟฟ้า และกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่นคนรุ่นใหม่ ด้วยการให้ทุนที่มีวัตถุประสงค์แอบแฝง เพื่อสนับสนุนทั้งกิจกรรมนักศึกษา การศึกษาดูงาน รวมถึงงานวิจัย
สำหรับรูปแบบงานปีนี้ จัดเน้นให้การรับรู้ในวงกว้างเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบายในมหาวิทยาลัยต่างๆ ผ่านช่องทางสื่อต่างๆ และสังคมออนไลน์เพื่อให้เข้ากับสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด 19 ในปีนี้
ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ กล่าวว่า ในประเทศไทยมีพระราชบัญญัติควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ. 2560 มาตรา 35 ที่ห้ามผู้ประกอบการและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องให้การอุปถัมภ์ บุคคล กลุ่มบุคคล หน่วยการของรัฐ ซึ่งรวมถึงมหาวิทยาลัยด้วย การประกาศงดรับทุนทุกรูปแบบจากบริษัทบุหรี่จึงสอดคล้องกับกฎหมายไทยและช่วยให้บุคลากรในมหาวิทยาลัยมหิดลและมหาวิทยาลัยทั่วประเทศสามารถทำหน้าที่อย่างเป็นอิสระ ไม่ละเมิดกฎหมาย และผลิตผลงานวิชาการที่ก่อประโยชน์ต่อคุณภาพชีวิตของประชาชน
ทั้งนี้ ล่าสุดมีมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลกกว่า 20 แห่ง ที่ได้ประกาศนโยบายไม่รับทุนและไม่ร่วมกิจกรรมใดๆ กับบริษัทบุหรี่และเครือข่ายของบริษัทบุหรี่ ทิศทางเดียวกันกับมหาวิทยาลัยต่างๆ ทั่วโลก ซึ่งยังถือว่าเป็นไปตามกรอบอนุสัญญาว่าด้วยการควบคุมยาสูบ (Framework Convention on Tobacco Control; WHO FCTC)ตามกฎหมายระหว่างประเทศฉบับแรกที่องค์การอนามัยโลกจัดทำขึ้นเพื่อช่วยในการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบอันเป็นสินค้าที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ซึ่งคร่าชีวิตคนทั่วโลกถึงปีละ 8 ล้านคน