อ.อ๊อด ยืนยัน "น้ำพุโซดา" ห้วยกระเจา ซ่าจริง แต่ห้ามดื่มโดยไม่กรอง
อาจารย์อ๊อด เผยผลการตรวจสอบน้ำพุบาดาล หรือ น้ำพุโซดา ที่ อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี พบว่า มีรสชาติซ่า เพราะมีแร่ธาตุไบคาร์บอเนตสูง แต่ยังเตือนห้ามรับประทานโดยไม่ผ่านการกรอง
วันนี้ (3 มี.ค.64) นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล พร้อมด้วย รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ หรือ อาจารย์อ๊อด อาจารย์ประจำภาควิชาเคมี คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์ ลงพื้นที่ตรวจสอบและยืนยันคุณภาพน้ำพุบาดาล ในพื้นที่ หมู่ 12 และในพื้นที่ 19 บ้านทุ่งคูณ ต.ห้วยกระเจา อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี
ด้าน รศ.ดร.วีรชัย เปิดเผยผลการทดสอบน้ำพุบาดาล ใน จ.กาญจนบุรี ที่มีรสชาติคล้ายกับโซดา ว่า ผลการทดสอบหาค่าคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเป็นก๊าซที่ออกมาจากโซดาในน้ำพุบาดาลที่เก็บมาทดสอบ พบว่าผลการทดสอบมีค่าของคาร์บอนไดออกไซด์ในน้ำไม่มีการลดลงแต่อย่างใด จึงยืนยันได้ว่า น้ำพุบาดาลดังกล่าว เป็นน้ำพุที่มีความซ่าที่เกิดจากแร่จากธรรมชาติ แต่หากจะรับประทานต้องผ่านการกรองเอาเหล็ก ซึ่งเป็นส่วนผสมออกก่อน พร้อมกับยืนยันว่า น้ำพุบาดาลไม่ได้มีคุณสมบัติในด้านการแก้ปัญหาปวดเมื่อยตามที่ประชาชนบางส่วนนำไปใช้
สำหรับผลการตรวจสอบน้ำพุบาดาล จากห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ ของกรมทรัพยากรน้ำบาดาล พบว่า มีปริมาณสารไบคาร์บอเนตสูงกว่าปกติถึง 2,400 มิลลิกรัมต่อลิตร ซึ่งสูงกว่าน้ำแร่จากต่างประเทศที่นำมาทดสอบ และไม่พบสารพิษปนเปื้อน จะมีเพียงธาตุเหล็กที่ทำให้น้ำมีสีเพียงเท่านั้น
ขณะที่ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้มีการขุดสำรวจหาน้ำเพื่อมาทดแทนบ่อน้ำพุบาดาล ซึ่งจะถูกทำเป็นแหล่งท่องเที่ยว โดยได้มีการขุดเพิ่มอีก 6 บ่อ และขณะนี้พบ 2 บ่อมีน้ำเพียงพอสำหรับการอุปโภคบริโภค โดยมีปริมาณน้ำสูงใกล้เคียงกับบ่อน้ำพุ โดยเตรียมสร้างระบบกระจายน้ำ เพื่อให้ประชาชนใช้ประโยชน์ทั้งการเกษตรและการบริโภคเพื่อทดแทนบ่อน้ำพุบาดาลต่อไป