รัฐบาล เตรียมแถลงจัดงาน "Thailand Winter Festival" 29 ตุลาคม

นายสุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองประธานที่ปรึกษา คณะที่ปรึกษานโยบายของนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ เปิดเผยว่า ในวันที่ 29 ต.ค.นี้ จะแถลงข่าวจัด Winter Festival ส่วนในปีหน้ามีโอกาสจัดเทศกาล อีเวนท์ระดับโลกหลายงานในไทยด้วย นอกจากนี้ เชื่อว่าพ.ร.บ.THACCA จะสามารถเกิดขึ้นได้ในปี 68 เพื่อเป็นการขับเคลื่อน Soft Power อย่างแท้จริง และในส่วนของคณะกรรมการซอฟต์พาวเวอร์ ก็จะเพิ่มอุตสาหกรรมมากกว่า 11 อุตสาหกรรมด้วย

ส่วนในปีงบประมาณปี 68 จะขับเคลื่อนโครงการ One Family One Soft Power (OFOS) ด้วยโครงการอบรม 1 หมู่บ้าน 1 เชฟอาหารไทย, โครงการพัฒนาศักยภาพครูศิลปะด้วย Soft Power และโครงการอบรมหลักสูตรภาพยนตร์ฟิล์มแคมป์ และค่ายผลิตภาพยนตร์สั้น

นอกจากนี้ ในปีหน้ายังสนับสนุนและสร้าง Ecosystem ด้วยโครงการให้ทุนสนับสนุนการผลิตภาพยนตร์, เทศกาลดนตรีระดับโลกในเมืองไทย, โครงการ Music Talent, งาน Winter Festival ครั้งใหญ่ แปลกใหม่ และตื่นตา, งานมหาสงกรานต์ ที่จะฉ่ำ และยิ่งใหญ่กว่าครั้งก่อน, THACCA SPLASH Soft Power Forum ที่จะยิ่งใหญ่กว่าปีที่ผ่านมา และ พ.ร.บ.THACCA และการก่อตั้งสำนักงานส่งเสริมวัฒนธรรมสร้างสรรค์

น.ส.ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ในปี 68 ที่นายกรัฐมนตรี ระบุว่าจะเป็นปีของ Thailand Tourism and Sports 2025 ททท. มีแพลนต่าง ๆ ทั้งการจัดเทศกาลสำคัญต่าง ๆ ในปีหน้า การให้สิทธิประโยชน์ในการเข้ามาในประเทศไทย การเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ การมีกิจกรรมร่วมกัน ในการนำเสนอเส้นทางท่องเที่ยว ทั้งนี้ จะตอบโจทย์การท่องเที่ยวและกีฬา เช่น ปีหน้าจะมีซีเกมส์ จะมีการขายการท่องเที่ยวด้วย

สำหรับมาตรการเที่ยวไทยไปต่อได้ เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยว จากผลกระทบอุทกภัยในภาคเหนือ ในส่วนของภาคการท่องเที่ยวจะนำเสนอแคมเปญแฟลชดีล ช่วยเหลือนักท่องเที่ยว และผู้ประกอบการ ส่วนโครงการแอ่วเหนือคนละครึ่ง ในวันที่ 1 พ.ย. นี้ จะเปิดเมืองเหนือพร้อมเที่ยว จังหวัดเชียงใหม่ และเชียงรายที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม โดยททท. จะนำผู้ประกอบการจากทุกภูมิภาคเดินทางไปประชาสัมพันธ์ในภาคเหนือ และจะมีการส่งเสริมการขายทั้งไทย และต่างประเทศด้วย

สำหรับในปี 70 ในส่วนของ KPI อุตสาหกรรมภาคบริการและการท่องเที่ยว คาดการณ์ว่า อาจเติบโตได้ถึง 30% ซึ่งไม่ได้รวมแค่ภาคบริการและท่องเที่ยว แต่ยังรวมถึงอุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์ทั้ง 11 อุตสาหกรรมด้วย

โดยททท. ใช้ซอฟต์พาวเวอร์ดึงจุดแข็งให้เป็นจุดขาย เผยเสน่ห์ของประเทศไทย ผ่านยุทธศาสตร์ "5 Must Do in Thailand" ได้แก่ 1. Must Taste อาหารถิ่นสู่มิชลินสตาร์ อาหารเป็นยา 2. Must Try กีฬาท้าทายแรงใจ นวดสปา 3. Must Buy นำเสนอสินค้าโอทอป งานคราฟของแต่ละท้องถิ่น 4. Must Seek แหล่งท่องเที่ยว Unseen Thailand และ 5. Must See งานเทศกาล ประเพณีท้องถิ่น