TNN “วันอาสาฬหบูชา” เปิดบทสวดบูชาดอกไม้ธูปเทียน ทำแล้วได้อานิสงส์อย่างไร?

TNN

สังคม

“วันอาสาฬหบูชา” เปิดบทสวดบูชาดอกไม้ธูปเทียน ทำแล้วได้อานิสงส์อย่างไร?

“วันอาสาฬหบูชา” เปิดบทสวดบูชาดอกไม้ธูปเทียน ทำแล้วได้อานิสงส์อย่างไร?

“วันอาสาฬหบูชา” เปิดบทสวดบูชาดอกไม้ธูปเทียน เวียนเทียนรอบโบถส์ ทำแล้วได้อานิสงส์ เป็นผลดีอย่างไร?

วันอาสาฬหบูชา 67 เป็นวันสำคัญทางศาสนาของไทย คำว่า อาสาฬหบูชา ย่อมาจาก "อาสาฬหปูรณมีบูชา" แปลว่า "การบูชาในวันเพ็ญเดือนอาสาฬหะ" โดยในปีนี้จะตรงกับวันที่ 20 กรกฎาคม โดยในวันนี้  พุทธศาสนิกชนชาวไทยนิยมทำบุญตักบาตร ในตอนเช้า ถวายสังฆทาน ให้อิสระทาน ฟังพระธรรมเทศนา และไปเวียนเทียนรอบโบสถ์ในเวลาเย็น 



ก่อนทำการเวียนเทียน เนื่องในวันอาสาฬหบูชา  พุทธศาสนิกชนควรร่วมกันกล่าวคำสวดมนต์และคำบูชาในวันอาสาฬหบูชา โดยปกติตามวัดต่าง ๆ จะจัดให้มีการทำวัตรสวดมนต์ก่อนทำการเวียนเทียน ซึ่งส่วนใหญ่นิยมทำการเวียนเทียนอย่างเป็นทางการ (โดยมีพระภิกษุสงฆ์นำเวียนเทียน) ในเวลาประมาณ 20.00 น.


สำหรับการเวียนเทียน “วันอาสาฬหบูชา”  จะเริ่มด้วยการ จุดธูปเทียนและถือดอกไม้ เป็นเครื่องสักการะบูชาในมือ แล้วเดินเวียนรอบปูชนียสถาน 3 รอบ โดยขณะที่เดินนั้นพึงตั้งจิตให้สงบ ด้วยการสวดบท ดังนี้ 


อิติปิโส (รอบที่หนึ่ง)  ระลึกถึงพระพุทธคุณ

สวากขาโต (รอบที่สอง) ระลึกถึงพระธรรมคุณ 

สุปะฏิปันโน (รอบที่สาม)  ระลึกถึงพระสังฆคุณ


 จนกว่าจะเวียนจบ 3 รอบ จากนั้นนำธูปเทียนดอกไม้ไปบูชาตามปูชนียสถานจึงเป็นอันเสร็จพิธี


คำบูชาดอกไม้ธูปเทียน “วันอาสาฬหบูชา” 


ยะมัมหะ โข มะยัง ภะคะวันตัง สะระณัง คะตา โย โน ภะคะวา สัตถา

ยัสสะ จะ มะยัง ภะคะวะโต ธัมมัง โรเจมะ อะโหสิ โข โส ภะคะวา

อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ สัตเตสุ การุญญัง ปะฏิจจะ กะรุณายะโก หิเตสี

อะนุกัมปัง อุปาทายะ อาสา ฬหะปุณณะมิยัง พาราณะสิยัง อิสิปะตะเน

มิคะทาเย ปัญจะวัคคิยานัง ภิกขูนัง อะนุตตะรัง ธัมมะจักกัง ปะฐะมัง

ปะวัตเต ตวา จัตตาริ อะริยะสัจจานิ ปะกาเสสิ ฯ


ตัสมิญจะ โข สะมะเย ปัญจะวัคคิยานัง ภิกขูนัง ปะมุโข อายัสมา อัญญาโกณฑัญโญ

ภะคะวะโต ธัมมัง สุตวา วิระชัง วีตะมะลัง ธัมมะจักขุง ปะฏิละภิตวา ยังกิญจิ

สะมุทะยะธัมมัง สัพพันตัง นิโรธะธัมมันติ


ภะคะวันตัง อุปะสัมปะทัง ยาจิตวา ภะคะวะโต เยวะสันติกา เอหิภิกขุ อุปะสัมปะทัง

ปะฏิละภิ ตวา ภะคะวะโต ธัมมะวินะเย อะริยะสาวะกะสังโฆ โลเก ปะฐะมัง อุปปันโน

อะโหสิ พุทธะระตะนังธัมมะระตะนัง สังฆะระตะนันติ ติระตะนัง สัมปุณณัง อะโหสิ ฯ


มะยัง โข เอตะระหิ อิมัง อาสาฬหะปุณณะมี กาลัง ตัสสะ ภะคะวะโต ธัมมะจักกัปปะ-

วัตตะนะกาละสัมมะตัง อะริยะสาวะกะสังฆะอุปปัตติกาละสัมมะ ตัญจะ ระตะนัตตะยะ-

สัมปุณณะกาละสัมมะตัญจะ ปัตวา อิมัง ฐานัง สัมปัตตา อิเม สักกาเร คะเหตวา อัตตะโน

กายัง สักการุปะธานัง กะริตวา ตัสสะ ภะคะวะโต ยะถาภุจเจ คุเณ อะนุสสะรันตา

อิมัง ถูปัง ( อิมัง พุทธะปะฏิมัง ) ติกขัตตุง ปะทักขิณัง กะริสสามะ ยะถาคะหิเตหิ

สักกาเรหิ ปูชัง กุรุมานา ฯ


สาธุ โน ภันเต ภะคะวา สุจิระปะรินิพพุโตปิ ญาตัพเพหิ คุเณหิ อะตีตารัมมะณะตายะ

ปัญญายะมาโน อิเม อัมเหหิ คะหิเต สักกาเร ปะฏิคคัณหาตุ อัมหากัง ทีฆะรัตตัง

หิตายะ สุขายะ ฯ


อานิสงส์ของการเวียนเทียน “วันอาสาฬหบูชา” 


กายสำรวมขึ้น มีความสงบ มีจิตใจที่สะอาด มีสมาธิ  ช่วยให้ไม่ลืมตัว ลดทิฐิ เมื่อกายและใจสงบเย็น จะสามารถสลัดออกจากภูมิเปรต เดรัจฉาน อีกทั้งบันดาลให้จิตพ้นอบายภูมิได้


อานิสงส์ของการถวายดอกไม้ธูปเทียน 10 ประการ


1.เป็นผู้มีกลิ่นตัวหอมฟุ้งขจรไปทั่วทุกสารทิศ


2.เป็นผู้มียศใหญ่


3.เป็นผู้มีปัญญาว่องไว


4.เป็นผู้มีชื่อเสียงดีงามขจรขจายไปทั่ว


5.ผู้มีปัญญาคมกล้า


6.จะเป็นผู้มีปัญญากว้างขวาง รู้ได้ครอบคลุม


7.จะเป็นผู้มีปัญญาร่าเริง


8.จะเป็นผู้มีปัญญาลึกซึ้งรู้ได้ลุ่มลึกไปตามลำดับ


9.จะผู้มีปัญญาเครื่องแล่นไปไพบูลย์ หมายถึง สามารถสร้างสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อชาวโลกด้วยปัญญาของตนเอง


10.จะเป็นผู้บรรลุนิพพานอันเป็นสุข


ภาพจากAFP 

ข่าวแนะนำ