อุทยานฯ เตือนเล่นน้ำเกาะพีพี - เกาะไม้ไผ่ ระวัง “แมงกะพรุนหัวขวด” พิษรุนแรง
อุทยานฯ เตือนพบ “แมงกะพรุนหัวขวด” บริเวณ “เกาะพีพี - เกาะไม้ไผ่” แนะนักท่องเที่ยวระมัดระวังมีพิษรุนแรง
อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี แจ้งเตือนผ่านเพจเฟซบุ๊กให้นักท่องเที่ยวระวังอันตรายจากแมงกะพรุนที่มักจะพบบ่อยครั้งในช่วงมรสุม โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาพบ แมงกะพรุนไฟหมวกโปรตุเกส หรือ แมงกะพรุนหัวขวด บริเวณเกาะพีพี และเกาะไม้ไผ่ จังหวัดกระบี่
ทั้งนี้ นักวิชาการผู้เชี่ยวชาญทางทะเลไทยตั้งข้อสังเกตว่าในระยะหลังมักจะพบแพงกะพรุนชนิดนี้บ่อยขึ้นทั้งฝั่งอ่าวไทยและอันดามัน อาจเป็นเพราะการเพิ่มขึ้นของไฟโตแพลงก์ตอนอาหารของแมงกะพรุน
แมงกะพรุนไฟหมวกโปรตุเกส หรือ แมงกะพรุนหัวขวด มีลักษณะส่วนบนลอยโผล่พ้นน้ำคล้ายลูกโป่งรูปร่างรี ยาว คล้ายหมวกของทหารเรือชาวโปรตุเกส มีหนวดยาวสีฟ้าหรือสีม่วง มีเข็มพิษป้องกันตัวและจับเหยื่อกระจายอยู่ทุกส่วนของร่างกายโดยเฉพาะบริเวณหนวด
อาการเมื่อสัมผัสพิษ “แมงกะพรุนหัวขวด”
ส่วนใหญ่คนที่สัมผัสพิษจะมีอาการคัน และปวดแสบปวดร้อนในเบื้องต้น ลักษณะอาการบริเวณผิวหนังที่โดนสัมผัสจะเป็น ผื่นหรือปื้นแดง ปวดแสบปวดร้อน
วิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้นเมื่อโดน “แมงกะพรุนหัวขวด”
ใช้น้ำส้มสายชูกลั่นที่ใช้บริโภคราดต่อเนื่อง 30 วินาที บริเวณที่ถูกพิษ ซึ่งน้ำส้มสายชูมีประสิทธิภาพในการยับยั้งการยิงเข็มพิษของแมงกะพรุน ห้ามใช้น้ำแข็ง น้ำเปล่า เหล้า โซดา หรือ อื่นๆ ล้าง เพราะจะทำให้พิษยิ่งแพร่กระจายมากขึ้น
ห้ามใช้มือสัมผัสแผล ห้ามขูด-ถู หรือนำวัสดุไปขยี้หรือทา บริเวณที่ได้รับพิษ เพราะจะทำให้พิษแพร่กระจายเร็วขึ้น หลังจากปฐมพยาบาลเบื้องต้น ให้รีบนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลเพื่อให้การรักษาได้อย่างทันท่วงที
ทั้งนี้ หากผู้ได้รับพิษแมงกะพรุน หมดสติ ไม่หายใจ ไม่มีชีพจร ให้รีบทำ CPR พร้อมโทรแจ้งสายด่วน 1669 ทันที
ชนิดของแมงกะพรุนในโลก มีมากกว่า 10,000 สายพันธุ์ และมากกว่า 100 สายพันธุ์ที่มีพิษต่อมนุษย์ บางชนิดก็มีพิษร้ายแรง เช่น แมงกะพรุนไฟ โดยแมงกะพรุนไฟสายพันธุ์ที่มีพิษร้ายแรงที่สุดในโลก คือ แมงกะพรุนไฟหมวกโปรตุเกส หรือ แมงกะพรุนหัวขวด
ข้อมูลจาก: อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี
ภาพจาก: อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี
ข่าวแนะนำ