TNN 10 ข่าวปลอม คนสนใจสูงสุดช่วง 7-13 มิ.ย. 2567 อย่าหลงเชื่อ หวั่นตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ

TNN

สังคม

10 ข่าวปลอม คนสนใจสูงสุดช่วง 7-13 มิ.ย. 2567 อย่าหลงเชื่อ หวั่นตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ

10 ข่าวปลอม คนสนใจสูงสุดช่วง 7-13 มิ.ย. 2567 อย่าหลงเชื่อ หวั่นตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ

ดีอีเตือนอย่าหลงเชื่อ 10 อันดับ "ข่าวปลอม" ที่คนสนใจสูงสุดช่วง 7-13 มิถุนายน 2567 หวั่นตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ

กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) พบข่าวปลอมรายสัปดาห์ ที่ประชาชนให้ความสนใจสูงสุดอันดับที่ 1 เรื่อง “ใบขับขี่ออนไลน์ ไม่ต้องไปขนส่ง ผ่านเพจ รับทำใบขับขี่รถทุกรุ่น A” รองลงมาคือเรื่อง “ประกาศจากสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องกำหนดราคาชดใช้แทนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ที่ไม่สามารถส่งคืน ขัดรัฐธรรมนูญ” โดยขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข่าวปลอม เลือกเชื่อ เลือกแชร์ ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ หวั่นตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ หรือสร้างความเข้าใจผิดให้กับประชาชนในสังคม

 

นายเวทางค์ พ่วงทรัพย์ รองปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ในฐานะโฆษกกระทรวงฯ กล่าวถึงผลการมอนิเตอร์และรับแจ้งข่าวปลอมของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ระหว่างวันที่ 7 - 13 มิถุนายน 2567 พบข้อความที่เข้ามาทั้งหมด 1,205,193 ข้อความ โดยมีข้อความที่ต้องดำเนินการตรวจสอบ (Verify) ทั้งสิ้น 308 ข้อความ

 

สำหรับช่องทางที่มีการพบเบาะแสมากที่สุด คือ ข้อความที่มาจาก Social Listening จำนวน 269 ข้อความ ตามมาด้วยการแจ้งเบาะแสผ่าน Line Official จำนวน 37 ข้อความ ข้อความที่มาจาก Website จำนวน 1 ข้อความ และช่องทาง Facebook จำนวน 1 ข้อความ รวมเรื่องที่ต้องดำเนินการตรวจสอบทั้งหมด 227 เรื่อง และจากการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้รับผลการตรวจสอบกลับมาแล้ว 213 เรื่อง

            

ข่าวปลอมที่ได้รับความสนใจเป็น 5 กลุ่ม ประกอบด้วย


กลุ่มที่ 1 : นโยบายรัฐบาล ข่าวสารทางราชการ ความสงบเรียบร้อยของสังคม ขัดศีลธรรมอันดี และความมั่นคงภายในประเทศ จำนวน 107 เรื่อง

กลุ่มที่ 2 : ผลิตภัณฑ์สุขภาพ วัตถุอันตราย เครื่องสำอาง รวมถึงสินค้าและบริการที่ผิดกฎหมายจำนวน 62 เรื่อง

กลุ่มที่ 3 : ภัยพิบัติ จำนวน 5 เรื่อง

กลุ่มที่ 4 : เศรษฐกิจ จำนวน 25 เรื่อง

กลุ่มที่ 5 : กลุ่มอาชญากรรมออนไลน์ จำนวน 15 เรื่อง

 

นายเวทางค์ กล่าวต่อว่า เมื่อพิจารณาจากข่าวปลอมที่ได้รับความสนใจในลำดับต้นๆ ในสัปดาห์ล่าสุดนี้ พบว่าส่วนใหญ่เป็นข่าวด้านกลุ่มนโยบายรัฐบาล ข่าวสารทางราชการ รองลงมาเป็นผลิตภัณฑ์สุขภาพ วัตถุอันตราย เครื่องสำอาง และกลุ่มเศรษฐกิจ ตามลำดับ โดยข่าวที่ได้รับความสนใจจากประชาชน มากที่สุด 10 อันดับ ได้แก่

 

อันดับที่ 1 : เรื่อง ใบขับขี่ออนไลน์ ไม่ต้องไปขนส่ง ผ่านเพจ รับทำใบขับขี่รถทุกรุ่น A

อันดับที่ 2 : เรื่อง ประกาศจากสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องกำหนดราคาชดใช้แทนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ที่ไม่สามารถส่งคืน ขัดรัฐธรรมนูญ

อันดับที่ 3 : เรื่อง ลงทะเบียนต่อใบขับขี่ออนไลน์ ผ่านเพจ ศูนย์ทำใบขับขี่ จัดส่งทั่วประเทศ

อันดับที่ 4 : เรื่อง ครีมรักษาเส้นเลือดขอด ทาวันละครั้งบอกลากับเส้นเลือดขอด

อันดับที่ 5 : เรื่อง รับตัวแทนแพ็กกิ๊บติดผม สมัครฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย

อันดับที่ 6 : เรื่อง การบินไทยรับสมัครงานกดยืนยันไฟล์ทบินออนไลน์ รายได้ 15,000-25,000 บาท

อันดับที่ 7 : เรื่อง ดื่มน้ำมะนาวร้อนทุกวัน ทำให้เนื้องอก และซีสต์ ยุบลงใน 3 เดือน

อันดับที่ 8 : เรื่อง กัญชาช่วยบรรเทาอาการลมชักในระยะยาวได้

อันดับที่ 9 : เรื่อง รับทำใบขับขี่ออนไลน์ ผ่านเพจ Transport888

 อันดับที่ 10 : เรื่อง เจ้าหน้าที่กรมบัญชีกลาง ติดต่อให้ยื่นขอเอกสารใหม่ ผ่านเว็บไซต์ dps.szgt.cc 

             

จาก 10 อันดับ พบข่าวเกี่ยวกับนโยบายรัฐบาล ข่าวสารทางราชการ หน่วยงานรัฐ และด้านสังคม อาชีพ ความเป็นอยู่มากถึง 6 อันดับ โดยส่วนใหญ่รูปแบบการหลอกลวง และการแอบอ้างติดต่อประสานงานหน่วยงานของทางภาครัฐ ทำให้ประชาชนส่วนมากหลงเชื่อ และสร้างความเข้าใจผิด จึงคาดว่าอาจเป็นเหตุผลส่วนหนึ่งที่ทำให้เข้าถึงความสนใจของผู้รับข่าวสาร โดยกรณีนี้ทำให้ประชาชนส่วนหนึ่งเกิดความหลงเชื่อ เข้าใจผิด เป็นช่องทางการก่ออาชญากรรมของกลุ่มมิจฉาชีพออนไลน์ในการหลอกลวงข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ที่หลงเชื่อ ซึ่งอาจก่อให้ความเสียหายที่เป็นผลกระทบต่อประชาชนส่วนใหญ่ในสังคม” นายเวทางค์ กล่าว

 

อย่างไรก็ตาม ดีอี มีความห่วงใยประชาชน เรื่องความตระหนักรู้เท่าทันข่าวปลอมที่ถูกแพร่กระจายบนสื่อออนไลน์ โซเชียล ซึ่งหากขาดความรู้เท่าทัน ส่งต่อข้อมูลข่าวปลอม ทำให้เกิดการหลงเชื่อ หรือเข้าใจผิด ส่งผลกระทบต่อประชาชนในสังคมเป็นวงกว้าง ดังนั้นจึงควรตรวจสอบข้อเท็จจริงของข่าวหรือลิงก์เว็บไซต์ให้แน่ชัด โดยสามารถตรวจสอบ ติดตามและแจ้งเบาะแสข่าวปลอม ผ่านช่องทางต่างๆ ของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ที่ ไลน์ @antifakenewscenter

เว็บไซต์ https://www.antifakenewscenter.com/ ทวิตเตอร์ https://twitter.com/AFNCThailand และช่องทางโทรศัพท์โทรสายด่วน GCC 1111 ต่อ 87 ตลอด 24 ชั่วโมง



ภาพจาก AFP

ข่าวแนะนำ