TNN การท่องเที่ยวภาคเหนือมาแรง ปี 66 ทะลุ 39 ล้านคน จากเมืองรองขยายตัว

TNN

สังคม

การท่องเที่ยวภาคเหนือมาแรง ปี 66 ทะลุ 39 ล้านคน จากเมืองรองขยายตัว

การท่องเที่ยวภาคเหนือมาแรง ปี 66 ทะลุ 39 ล้านคน จากเมืองรองขยายตัว

ตัวเลขท่องเที่ยวภาคเหนือ ปี 2566 พุ่งสูงถึง 39 ล้านคน เนื่องจากการท่องเที่ยวเมืองรอง ขยายตัวมากขึ้น ตั้งเป้าปีนี้มาเยือนเพิ่ม 45 ล้านคน

นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยสถานการณ์ท่องเที่ยว ของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 ประกอบด้วยจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน และแพร่ ในปี 2566 ที่ผ่านมา ทั้ง 4 จังหวัดมี จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นสูงมาก ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ เมื่อเทียบกับช่วงปี 2562 หรือก่อนเกิดสถานการณ์ โควิด -19 ระบาด โดยในปี 2566 ภาคเหนือมีนักท่องเที่ยวไปเยือนมากกว่า 39.4 ล้านคน แบ่งเป็นนักท่องเที่ยวชาวไทยกว่า 34.8 ล้านคน และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 4.6 ล้านคน  เมื่อเปรียบเทียบปี 2562 พบว่า มีผู้เยี่ยมเยือนเพิ่มขึ้นร้อยละ 9.65


รัฐมนตรีว่าการท่องเที่ยวและกีฬา บอกว่า สาเหตุที่นักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น เป็นผลจากการท่องเที่ยวเมืองรองที่ขยายตัวถึงร้อยละ 15.95 โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการดำเนินมาตรการส่งเสริมตลาดท่องเที่ยวภายในประเทศของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รวมทั้งการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กระแสความนิยมในสังคมออนไลน์ และการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัด ที่กระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยวตลอดทั้งปี โดยเมืองรองที่ขยายตัวสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ เชียงราย ขยายตัวถึงร้อยละ 64.86 


รองลงมาคือ น่าน ขยายตัวร้อยละ64.61 และพะเยา ขยายตัวร้อยละ 53.59  ตามลำดับ ขณะที่การท่องเที่ยวในเมืองหลักอย่างจังหวัดเชียงใหม่ กลับหดตัวลดลงเล็กน้อยร้อยละ 4.36 เนื่องมาจากพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวที่กระจายการเดินทางสู่แหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดอื่นๆ มากขึ้น สำหรับในปี 2567 คาดว่าการท่องเที่ยวในภาคเหนือจะขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าจะมีผู้เยี่ยมเยือนไม่น้อยกว่า 45 ล้านคน


รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา บอกอีกว่า ในการประชุม ครม.นอกสถานที่ ในกลุ่ม จังหวัดภาคเหนือตอนบน 2  มีหลายโครงการที่ต้องมีการพัฒนาทั้งด้านการท่องเที่ยวและด้านกีฬา เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับพื้นที่ ต้องการการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องเพื่อส่งเสริมให้จังหวัดเชียงรายเป็นเมืองสุขภาพดี เมืองแห่งชา-กาแฟ และเมืองแห่งกีฬา 


ขณะที่จังหวัดพะเยา จะส่งเสริมการท่องเที่ยวร่วมกับชุมชน ผลักดันการท่องเที่ยวสีขาว ที่สะดวกสะอาดปลอดภัย เป็นธรรม และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ตลอดจนส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ อาหารและกีฬา


สำหรับจังหวัดน่านจะขับเคลื่อน การเป็นสมาชิกเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ขององค์การยูเนสโกและ พัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวโดยชุมชน ส่วนจังหวัดแพร่จะมีการพัฒนาเส้นทางการ ท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ กระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวภายในจังหวัดและระหว่างจังหวัดด้วย


ภาพจาก: AFP 

ข่าวแนะนำ