ซาอุฯ ไฟเขียวเปิดน่านฟ้าอพยพคนไทยออกจากอิสราเอล
ซาอุดีอาระเบีย เปิดไฟเขียวเครื่องบินกองทัพอากาศไทยผ่านน่านฟ้า อพยพแรงงานในอิสราเอลกลับประเทศ ใช้เวลาเพียง 8 ชั่วโมง โดยเที่ยวแรก 179 คนถึงกองบิน 6 วันนี้
ซาอุดีอาระเบีย เปิดไฟเขียวเครื่องบินกองทัพอากาศไทยผ่านน่านฟ้า อพยพแรงงานในอิสราเอลกลับประเทศ ใช้เวลาเพียง 8 ชั่วโมง โดยเที่ยวแรก 179 คนถึงกองบิน 6 วันนี้
พลอากาศเอก พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 21 ตุลาคม เป็นต้นไป เครื่องทัพอากาศไม่ต้องบินอ้อมประเทศอิสราเอลแล้ว ซึ่งจากเดิมใน 2 เที่ยวบินแรกที่กองทัพอากาศบินไปอพยพแรงงานไทยในอิสราเอลนั้น ต้องบินผ่านน่านฟ้า 10 ประเทศ ทั้ง สปป.ลาว จีน คาซัคสถาน อุซเบกิสถาน เติร์กเมนิสถาน อาเซอร์ไบจาน อาร์เมเนีย ตุรกี ไซปรัสและอิสราเอล แต่ เส้นทางใหม่จะผ่านเพียง 7 ประเทศ ได้แก่ เมียนมา อินเดีย โอมาน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซาอุดีอาระเบีย จอร์แดน และอิสราเอล ก่อนลงจอดที่ท่าอากาศยานเบนกูเรียน กรุงเทลอาวีฟ ใช้เวลาเพียงกว่า 8 ชั่วโมง
จากเดิมที่ต้องบินอ้อมใช้เวลากว่า 13 ชั่วโมง ซึ่งจะเริ่มทำการบินได้ในเที่ยวบินที่ 3 ที่กองทัพอากาศส่งเครื่องบินแอร์บัส A 340-500 ไปในวันที่ 21 ตุลาคม คาดว่าจะมีแรงงานไทยเดินทางกลับ 179 คน ถึงท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง กทม. เวลา 10.50 น. วันนี้ (22 ต.ค.)
อย่างไรก็ตาม เที่ยวบินที่ 3 จะเป็นเที่ยวบินสุดท้ายที่จะเดินทางไปรับคนไทยที่ประเทศอิสราเอล และปรับเปลี่ยนภารกิจเที่ยวบินใหม่ ในเที่ยวบินที่ 4, 5 และเที่ยวบินที่ 6 ที่ทางกองทัพได้รับมอบหมายจากศูนย์ RRC ให้อพยพคนไทยที่สนามบินฟูไจราห์ ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ วันที่ 25 , 28 และ 31 ตุลาคม ด้วยเครื่องบิน A340-500 โดยไม่ต้องบินไปถึงอิสราเอล
ส่วนหลังจากจบ 6 เที่ยวบินแล้ว ทางกองทัพอากาศ มีแผนที่เตรียมพร้อมไว้แน่นอน ซึ่งหากมีประชาชนคนไทยที่ยังมีหลงเหลือ หรือต้องการกลับเพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็นส่วนของกองทัพอากาศเอง หรือบริษัทสายการบินอื่นๆ ก็ยังคงปฏิบัติภารกิจเหมือนเดิม
ทั้งนี้ กองทัพอากาศได้รับรายงานมีคนไทยที่ประสงค์จะเดินทางกลับประเทศมีเพิ่มมากขึ้น แต่มีบางส่วนที่เปลี่ยนใจไม่เดินทางกลับ เนื่องจากนายจ้างขอจ่ายค่าแรงเพิ่ม ดังนั้น อยู่ที่ความต้องการของตัวแรงงานว่าจะกลับหรือไม่
แฟ้มภาพ TNN Online