TNN ไม่ได้ลุแก่อํานาจ! โฆษกรบ.แจง ประเด็นนายกฯ เซ็นตั้ง ผบ.ตร. เป็นไปตามตัวบทกฎหมาย

TNN

สังคม

ไม่ได้ลุแก่อํานาจ! โฆษกรบ.แจง ประเด็นนายกฯ เซ็นตั้ง ผบ.ตร. เป็นไปตามตัวบทกฎหมาย

ไม่ได้ลุแก่อํานาจ! โฆษกรบ.แจง ประเด็นนายกฯ เซ็นตั้ง ผบ.ตร. เป็นไปตามตัวบทกฎหมาย

โฆษกรัฐบาลชี้แจงประเด็นการแต่งตั้ง ผบ.ตร. ดำเนินการตามตัวบทกฎหมาย ถูกต้องตามหลักการทุกประการ ย้ำนายกฯ ใช้อำนาจอย่างเหมาะสม ผ่านการรับฟังความคิดเห็นอย่างรอบด้านแล้ว

วันนี้ (5 ตุลาคม 2566) เวลา 14.40 น. ณ ทำเนียบรัฐบาล นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนถึงกรณีที่พลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และนายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความ นำประเด็นการแต่งตั้ง ผบ.ตร. ว่ามีการดำเนินการขัดต่อกฎหมาย โดยได้ไปร้องเรียนที่สำนักงาน ปปช. นั้น 

 

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีได้ชี้แจงในส่วนของข้อกฎหมายและข้อเท็จจริง ดังนี้

 

ด้านข้อกฎหมาย การแต่งตั้ง ผบ. ตร. เป็นไปตามพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ  มาตรา 77 และมาตรา 78 

โดยสาระสําคัญของตัวกฎหมายระบุว่า ผู้ที่จะเป็น Candidate ในการได้รับการเสนอชื่อหรือการแต่งตั้งให้เป็น ผบ.ตร. นั้น จะต้องเป็น รอง ผบ.ตร. หรือเป็นจเรตำรวจ ซึ่งในรอบวาระวันที่ 27 กันยายน 2566 มีผู้ที่เข้าคุณสมบัตินี้อยู่ คือ รอง ผบ.ตร. 4 ท่าน ในส่วนจเรตำรวจมีการเกษียณอายุราชการ ดังนั้นจึงเหลือ Candidate 4 ท่าน

 

ขณะที่กฎหมายในมาตรา 77 และมาตรา 78 ได้ระบุว่า เกณฑ์ในการคัดเลือกนั้น ให้ยึดถือทั้งอาวุโสและความรู้ความสามารถประกอบกัน ซึ่งมีการแก้ไขกฎหมายใหม่ ก่อนหน้าปี 2565 นั้น ให้ยึดถืออาวุโสเป็นหลัก และได้มาแก้ให้พิจารณาเรื่องความรู้ความสามารถด้วย โดยให้นายกรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอชื่อ และที่ประชุม กตร. ลงมติโหวตเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบ ซึ่งปรากฏว่าในวันนั้น ผู้ได้รับการเสนอชื่อและที่ประชุมมีมติเห็นชอบ 9 เสียง ต่อ 1 เสียง และงดออกเสียง 2 เสียง โดยทำให้ พลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ สุขวิมล ได้รับเลือกเป็น ผบ.ตร.


ดังนั้น ได้ฟังการประเมินความรู้ความสามารถอย่างรอบด้าน ซึ่งเมื่อประเมินแล้วเห็นว่า ความแตกต่างเรื่องอาวุโส ต่างกันเพียงแค่ปีเดียว แต่เรื่องของความรู้ความสามารถที่ได้ฟังจากคณะกรรมการข้าราชการตำรวจสะท้อนออกมา นายกรัฐมนตรีจึงได้ตัดสินใจเสนอชื่อพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ฯ ซึ่งที่ประชุมจากที่ได้ฟังการอภิปรายได้ฟังข้อมูลรอบด้าน เห็นชอบกับข้อเสนอของนายกรัฐมนตรี 9 ต่อ 1 เสียง 

 

“ทั้งหมดนี้คือข้อเท็จจริงตามตัวบทกฎหมาย ถูกต้องตามหลักการทุกประการ และข้อเท็จจริงมีความชอบธรรม สมเหตุสมผล ซึ่งนายกรัฐมนตรีไม่ได้ลุแก่อํานาจ ท่านยึดตามหลักกฎหมายและได้ฟังอย่างรอบด้านแล้ว ส่วนกรณีที่มีการฟ้องร้องกันเกิดขึ้น ก็จะชี้แจงตามข้อเท็จจริง ถ้าต้องไปชี้แจงที่ไหนก็สามารถชี้แจงได้ ไม่ใช่เพียงตัวท่านนายกรัฐมนตรี ผู้ที่อยู่ในที่ประชุม ผู้ที่นั่งฟังอยู่เขารู้ว่าอะไรเกิดขึ้น ซึ่งสามารถชี้แจงได้ทุกคน” นายชัยฯ กล่าว

ข่าวแนะนำ