เปิดแอร์อย่างไรให้ประหยัด หน้าร้อนเย็นสบายไม่ต้องห่วงค่าไฟพุ่ง!
การไฟฟ้านครหลวง แนะวิธีใช้ เครื่องปรับอากาศ หรือ แอร์ อย่างไรให้ประหยัดค่าไฟ เย็นสบายในช่วงหน้าร้อน
การไฟฟ้านครหลวง แนะวิธีใช้ เครื่องปรับอากาศ หรือ แอร์ อย่างไรให้ประหยัดค่าไฟ เย็นสบายในช่วงหน้าร้อน
หลังจากประเทศไทยเข้าสู่ฤดูร้อนอย่างเป็นทางการ ทำให้ทั่วประเทศประสบเหตุอากาศร้อนถึงร้อนจัดและมีฟ้าหลัวในตอนกลางวันและปฏิเสธไม่ได้เลยว่าตัวช่วยที่ทำให้ใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางสภาพอากาศร้อนจัดได้ก็คือ พัดลม และ เครื่องปรับอากาศ หรือ แอร์ เพราะถือเป็นสิ่งเดียวที่มอบความเย็นฉ่ำได้อย่างทันใจ
โดย การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ได้ให้ความรู้เกี่ยวกับการใช้ เครื่องปรับอากาศ หรือ แอร์ ให้ประหยัดไฟในช่วงหน้าร้อน โดยมีวิธีดังนี้
-เปิดแอร์ 26 องศาเซลเซียส แต่หากต้องการความรู้สึกเย็นสบายเท่ากับ 24 องศาเซลเซียส ให้เปิดพัดลมช่วย
-ล้างแอร์เป็นประจำอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง โดยล้างก่อนหน้าร้อน 1 ครั้ง
-ไม่ใช้อุปกรณ์ทำความร้อนในห้องแอร์ เช่น ไม่ควรรีดผ้าในห้องแอร์ เพราะจะทำให้แอร์ทำงานหนักขึ้น
-ตั้งเวลาปิดแอร์ให้เร็วขึ้นวันละ 1 ชั่วโมง ช่วยประหยัดไฟได้
คาดหมายอากาศทั่วไป ระหว่างวันที่ 5 - 11 เมษายน พ.ศ. 2566
ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 5 – 6 และ 10 – 11 เม.ย. 66 อากาศร้อนโดยทั่วไปกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 - 20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากทางด้านตะวันตกและตอนล่างของภาค ลมตะวันตก ความเร็ว 5 – 15 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 21 – 28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 37 – 42 องศาเซลเซียส
ส่วนในช่วงวันที่ 7 – 9 เม.ย. 66 อากาศร้อนโดยทั่วไปกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 - 40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตกบางแห่ง ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 – 20 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 20 – 28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35 – 39 องศาเซลเซียส
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 6 – 8 เม.ย. 66 อากาศร้อนโดยทั่วไปกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 - 60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตกบางแห่ง ลมตะวันออก ความเร็ว 10 – 25 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 20 – 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 – 39 องศาเซลเซียส
ส่วนในช่วงวันที่ 9 – 11 เม.ย. 66 อากาศร้อนโดยทั่วไปกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 - 20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 – 20 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 21 – 28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35 – 39 องศาเซลเซียส
ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 5 – 6 และ 10 - 11 เม.ย. 66 อากาศร้อนโดยทั่วไปกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 - 20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 – 20 กม./ชม.อุณหภูมิต่ำสุด 24 – 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35 – 41 องศาเซลเซียส
ส่วนในช่วงวันที่ 7 – 9 เม.ย. 66 อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 - 60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตกบางแห่ง ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 – 25 กม./ชม.อุณหภูมิต่ำสุด 22 – 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 – 38 องศาเซลเซียส
ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 6 – 8 เม.ย. 66 มีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 - 60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตกบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 21 – 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 – 36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 – 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 9 - 11 เม.ย. 66 อากาศร้อนโดยทั่วไปกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 - 30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23 – 28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 – 40 องศาเซลเซียส
ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)
อากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 30 ของพื้นที่ ตลอดช่วง ในช่วงวันที่ 5 – 6 เม.ย. 66 ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 7 – 11 เม.ย. 66 ลมตะวันออก ความเร็ว 10 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 22 – 28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 – 38 องศาเซลเซียส
ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)
อากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 30 ของพื้นที่ ตลอดช่วง ในช่วงวันที่ 5 – 7 เม.ย. 66 ลมตะวันตกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 8 – 11 เม.ย. 66 ลมตะวันออก ความเร็ว 10 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23 – 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 – 38 องศาเซลเซียส
กรุงเทพและปริมณฑล
ในช่วงวันที่ 5 – 6 และ 10 – 11 เม.ย. 66 อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน ลมใต้ ความเร็ว 10 – 20 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 25 – 28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 – 39 องศาเซลเซียส
ส่วนในช่วงวันที่ 7 – 9 เม.ย. 66 อากาศร้อนในตอนกลางวัน มีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 - 60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 – 25 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 23 – 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 – 37 องศาเซลเซียส
ภาพจาก TNN Online