“ชัยวุฒิ” ยินดีคนไทย “พ.ร.ก.ปราบอาชญากรรมออนไลน์”
“ชัยวุฒิ” ยินดีคนไทย “พ.ร.ก.ปราบอาชญากรรมออนไลน์” ประกาศใช้แล้ว แนะผู้เสียหายแจ้งธนาคารระงับบัญชีม้าได้ทันที เตือนคนทำผิดรีบไปยกเลิกบัญชีม้าก่อนเจอโทษหนัก
นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ซึ่ง อยู่ระหว่างการประชุม World Summit on the Information Society Forum 2023 นครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ กล่าวแสดงความยินดีกับคนไทยทุกคน หลัง พระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี มีการประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา และจะมีผลบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 17 มี.ค. เป็นต้นไป ซึ่งกฎหมายฉบับนี้เป็นกฎหมายสำคัญ ที่รัฐออกมาเพื่อแก้ไขปัญหาการหลอกลวงทางออนไลน์ และปัญหาอาชกรรมทางออนไลน์ทั้งหมด ทำให้ปัญหาจะลดลงอย่างแน่นอนหลังจากนี้
นายชัยวุฒิ กล่าวว่า หลังจากนี้หากประชาชนถูกหลอกลวงทางออนไลน์ให้รีบแจ้งไปที่ธนาคารโดยตรง เพื่อที่ธนาคารจะได้ระงับบัญชีไม่ให้เงินถูกโอนออกไปเป็นทอดๆ ซึ่งหลังจากนี้ ธนาคารจะมีอำนาจระงับบัญชีต้องสงสัยได้ทันที จากเดิมต้องรอไปแจ้งความก่อนถึงจะระงับบัญชีได้
ส่วนบัญชีม้า และเบอร์มือถือม้า ที่รับจ้างเปิดให้คนร้ายนำไปใช้หลอกลวงประชาชน หลังจากนี้จะมีความผิดทางกฎหมายมีโทษจำคุก3 ปี ปรับ3 แสนบาท ดังนั้นประชาชน ที่กำลังทำความผิดให้ไปแจ้งยกเลิกบัญชีผิดกฎหมายเหล่านี้โดยด่วน เพราะถือว่ามีความผิดตามกฎหมายนี้ ได้ไม่คุ้มเสียรับจ้างได้เงินเพียง 500 - 2,000 บาท แต่ต้องมาโดนปรับ 300,000 บาท และจำคุกอีก 3ปี ทั้งหมดนี้เป็นเพียงมาตรการขั้นต้น ซึ่งสัปดาห์หน้า นายกรัฐมนตรี จะมีคณะกรรมการขึ้นมากำหนดมาตรการแก้ไขปัญหาต่างๆเมเติม ให้ครอบคลุมความเดือดร้อนของประชาชนอย่างเร่งด่วนด้วย
“ผมขอเตือนพี่น้องประชาชนที่ไปรับจ้างเปิดบัญชีม้าหรือเอาเบอร์มือถือไปให้คนร้ายใช้ ให้รีบไปยกเลิกสิ่งเหล่านี้เพราะมีความผิด และได้ไม่คุ้มเสียรับจ้างได้เงินเพียง 500 - 2,000 บาท แต่ต้องมาโดนปรับ 300,000บาท และจำคุกอีก3ปี ”... นายชัยวุฒิกล่าว
นายชัยวุฒิ ยังขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ช่วยกัน ร้องเรียนแจ้งเบาะแส ทำให้สังคมตื่นตัว สามารถรับมือกับปัญหาอาชญากรรมทางออนไลน์ได้มากขึ้น พร้อมขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ช่วยกันปราบปรามผู้กระทำความผิดอย่างต่อเนื่อง ตามนโยบายของรัฐบาล ทำให้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ลดลง แต่ยังคงมีรูปแบบการหลอกลวงใหม่ๆที่เกิดขึ้น ซึ่งกระทรวงดีอีเอส จะร่วมมือกับหน่วยงานเฝ้าระวัง เพื่อแก้ไขปัญหาให้ประชาชนมีความมั่นคง และมีความปลอดภัยทางไซเบอร์อย่างสูงสุด