ราชกิจจาฯประกาศ "อัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือ 17 สาขา" เช็กเลยได้เท่าไหร่บ้าง?
ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ ประกาศคณะกรรมการค่าจ้างฉบับใหม่ อัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือ (ฉบับที่ 12) รับต่ำสุดวันละ 465 บาท สูงสุดวันละ 715 บาท
ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ ประกาศคณะกรรมการค่าจ้างฉบับใหม่ อัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือ (ฉบับที่ 12) รับต่ำสุดวันละ 465 บาท สูงสุดวันละ 715 บาท
เว็บไซต์ราชกิจจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศคณะกรรมการค่าจ้างเรื่อง อัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือ (ฉบับที่ 12) โดยระบุว่า ด้วยคณะกรรมการค่าจ้างชุดที่ 21 ได้มีการประชุมศึกษาและพิจารณาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอัตราค่าจ้างที่ลูกจ้างได้รับตามมาตรฐานฝีมือ และมีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565 ให้กำหนดอัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือ รวม 17 สาขา โดยใช้มาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงานเป็นเกณฑ์วัดค่าทักษะฝีมือ ความรู้ ความสามารถ
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 79 (4) และมาตรา 88 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงานพ.ศ. 2541 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2551 คณะกรรมการค่าจ้างจึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ประกาศนี้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดเก้าสิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ 2 ในประกาศนี้ “มาตรฐานฝีมือ” หมายความว่า มาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ ตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน
ข้อ 3 อัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือในแต่ละสาขาอาชีพและในแต่ละระดับ ให้เป็นดังนี้
(1) สาขาอาชีพช่างอุตสาหการ สาขาช่างระบบส่งถ่ายกำลัง ระดับ 1 เป็นเงินไม่น้อยกว่าวันละ 495 บาท
(2) สาขาอาชีพช่างอุตสาหการ สาขาช่างระบบปั๊มและวาล์ว ระดับ 1 เป็นเงินไม่น้อยกว่าวันละ 515 บาท
(3) สาขาอาชีพช่างอุตสาหการ สาขาช่างประกอบโครงสร้างเหล็ก ระดับ 1 เป็นเงินไม่น้อยกว่าวันละ 500 บาท
(4) สาขาอาชีพช่างอุตสาหการ สาขาช่างปรับ ระดับ 1 เป็นเงินไม่น้อยกว่าวันละ 500 บาท
(5) สาขาอาชีพช่างอุตสาหการ สาขาผู้ควบคุมระบบงานเชื่อมมิก-แม็ก ด้วยหุ่นยนต์ ระดับ 1 เป็นเงินไม่น้อยกว่าวันละ 520 บาท
(6) สาขาอาชีพช่างอุตสาหการ สาขาช่างเมคคาทรอนิกส์และหุ่นยนต์อุตสาหกรรม ระดับ 1 เป็นเงินไม่น้อยกว่าวันละ 545 บาท ระดับ 2 เป็นเงินไม่น้อยกว่าวันละ 635 บาทและระดับ 3 เป็นเงินไม่น้อยกว่าวันละ 715 บาท
(7) สาขาอาชีพช่างเครื่องกล สาขาช่างซ่อมรถแทรกเตอร์การเกษตร ระดับ 1 เป็นเงินไม่น้อยกว่าวันละ 465 บาท ระดับ 2 เป็นเงินไม่น้อยกว่าวันละ 535 บาทและระดับ 3 เป็นเงินไม่น้อยกว่าวันละ 620 บาท
(8) สาขาอาชีพช่างเครื่องกล สาขาพนักงานควบคุมเครื่องจักรรถตักหน้าขุดหลัง ระดับ 1 เป็นเงินไม่น้อยกว่าวันละ 585 บาท
(9) สาขาอาชีพช่างเครื่องกล สาขาพนักงานควบคุมเครื่องจักรรถขุด ระดับ 1 เป็นเงินไม่น้อยกว่าวันละ 570 บาท
(10) สาขาอาชีพช่างเครื่องกล สาขาพนักงานควบคุมเครื่องจักรรถลากจูง ระดับ 1 เป็นเงินไม่น้อยกว่าวันละ 515 บาท
(11) สาขาอาชีพช่างเครื่องกล สาขาพนักงานควบคุมเครื่องจักรรถตัก ระดับ 1 เป็นเงินไม่น้อยกว่าวันละ 520 บาท
(12) สาขาอาชีพภาคบริการ สาขานักส่งเสริมสุขภาพแบบองค์รวม ไทยสัปปายะ (โภชนบำบัด)ระดับ1 เป็นเงินไม่น้อยกว่าวันละ 500 บาท และระดับ2เป็นเงินไม่น้อยกว่าวันละ 600 บาท
(13) สาขาอาชีพภาคบริการ สาขานักส่งเสริมสุขภาพแบบองค์รวม ไทยสัปปายะ (วารีบำบัด)ระดับ 1 เป็นเงินไม่น้อยกว่าวันละ 500 บาท และระดับ 2 เป็นเงินไม่น้อยกว่าวันละ 600 บาท
(14) สาขาอาชีพภาคบริการ สาขานักส่งเสริมสุขภาพแบบองค์รวม ไทยสัปปายะ (สุคนธบำบัด)ระดับ 1 เป็นเงินไม่น้อยกว่าวันละ 500 บาท และระดับ 2 เป็นเงินไม่น้อยกว่าวันละ 600 บาท
(15) สาขาอาชีพภาคบริการ สาขาพนักงานผสมเครื่องดื่ม ระดับ 1 เป็นเงินไม่น้อยกว่าวันละ 475 บาท ระดับ 2 เป็นเงินไม่น้อยกว่าวันละ 525 บาท และระดับ 3 เป็นเงินไม่น้อยกว่าวันละ 600 บาท
(16) สาขาอาชีพภาคบริการ สาขาการเลี้ยงดูเด็กปฐมวัย ระดับ 1 เป็นเงินไม่น้อยกว่าวันละ 530 บาท
(17) สาขาอาชีพภาคบริการ สาขาช่างเครื่องช่วยคนพิการ ระดับ 1 เป็นเงินไม่น้อยกว่าวันละ 520 บาท และระดับ 2 เป็นเงินไม่น้อยกว่าวันละ 600 บาท
ข้อ 4 เพื่อประโยชน์ตามข้อ 3 (1) ถึง (17) คำว่า“วัน” หมายถึง เวลาทำงานปกติของลูกจ้าง
ข้อ 5 นายจ้างที่ให้ลูกจ้างทำงานในตำแหน่งงานหรือลักษณะงานที่ต้องใช้ทักษะฝีมือความรู้ ความสามารถตามมาตรฐานฝีมือในสาขาอาชีพและระดับใด ไม่ว่าจะครอบคลุมมาตรฐานฝีมือนั้นทั้งหมดหรือส่วนหนึ่งส่วนใดก็ตาม ให้นายจ้างจ่ายค่าจ้างให้แก่ลูกจ้างไม่น้อยกว่าอัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือในสาขาอาชีพและระดับนั้น
ข้อ 6 ภายใต้บังคับข้อ 5 ลูกจ้างที่ผ่านการทดสอบมาตรฐานฝีมือในสาขาอาชีพและระดับใด ไม่ว่าก่อนหรือหลังประกาศนี้มีผลใช้บังคับ หากประสงค์จะใช้สิทธิให้ยื่นหนังสือรับรองว่าเป็นผู้ผ่านการทดสอบมาตรฐานฝีมือในสาขาอาชีพและระดับนั้นแก่นายจ้างโดยเร็ว
เมื่อนายจ้างได้รับหนังสือรับรองตามวรรคหนึ่งแล้ว ให้จ่ายค่าจ้างตามอัตราในประกาศนี้ให้แก่ลูกจ้างนับแต่วันที่ได้หนังสือรับรองเป็นต้นไป
อ่านประกาศ อัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือ (ฉบับที่ 12) ได้ที่นี่