รู้เท่าทันมิจฉาชีพ! แนะ 4 วิธีป้องกันตัวให้รอดพ้นจาก "โจรไซเบอร์"
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ย้ำเตือนประชาชน ระวังมิจฉาชีพหลอกลวง แนะแนวทางป้องกันตัวให้รอดพ้นจากรูปแบบโจรกรรมข้อมูลใน 4 วิธี
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ย้ำเตือนประชาชนระวังมิจฉาชีพหลอกลวง ขอตรวจสอบธุรกิจ-ปรับปรุงนิติบุคคล จึงแนะ 4 วิธีเอาตัวรอดจากโจรไซเบอร์
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้รับเรื่องร้องเรียนจากภาคธุรกิจและประชาชนว่า มีมิจฉาชีพโทรศัพท์หรือส่งข้อความไปยังผู้ประกอบธุรกิจและประชาชน โดยแอบอ้างชื่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ขอตรวจสอบธุรกิจหรือให้ปรับปรุงข้อมูลนิติบุคคล หรือโครงการให้เงินช่วยเหลือเยียวยาธุรกิจจากโควิด-19 ซึ่งต้องแจ้งข้อมูลเพิ่มเติมและเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ผ่านทางแอปพลิเคชัน Line ที่สร้างปลอมขึ้นมาให้หลงเชื่อว่า เป็นช่องทางการติดต่อกับกรมฯ หลอกให้ประชาชน ดาวน์โหลดจนนำไปสู่การโจรกรรมออนไลน์สูญเสียทรัพย์สินตามมา
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า มีความห่วงใยประชาชนที่อาจจะตกเป็นผู้เสียหาย หากไม่รู้เท่าทันมิจฉาชีพ และย้ำชัดว่าไม่มีนโยบายทักหาใครก่อน รวมถึงขอข้อมูลส่วนบุคคลหรือเสนอเงินช่วยเหลือธุรกิจด้วย จึงขอแนะแนวทางในการป้องกันตัวให้รอดพ้นจากรูปแบบการโจรกรรมข้อมูลใน 4 วิธี ดังนี้ คือ
1. ก่อนเข้าใช้งานเว็บไซต์จะต้องตรวจสอบให้แน่ใจ ว่า URL ของเว็บไซต์นั้นสะกดถูกต้องตรงกับหน่วยงานที่จะติดต่อหรือไม่และควรพิมพ์ตัวอักษรด้วยตนเองแทนการกดผ่านลิ้งค์ที่ได้รับต่อมา จะเป็นวิธีการใช้งานที่ปลอดภัยที่สุด
2. ไม่กดลิงก์/SMS/โหลดแอปพลิเคชัน ที่ไม่รู้จัก หรือได้รับการแชร์มาจากที่ต่างๆ เพราะอาจมีกลโกงจากมิจฉาชีพแฝงอยู่ เพื่อหลอกให้กรอกข้อมูลส่วนบุคคลผ่านลิ้งค์
3. ไม่หลงเชื่อคำเชิญชวน หากได้รับโทรศัพท์หรือการติดต่อจากบุคคลที่อ้างว่ามาจากหน่วยงานต่างๆ โดยไม่ได้มีธุรกรรม ที่เกี่ยวข้องกันมาก่อน หรือเสนอเรื่องต่างๆ ขอให้พึงระวังว่าเป็นมิจฉาชีพ
4. การโจรกรรมทรัพย์สินผ่านระบบออนไลน์ จะต้องใช้ข้อมูลที่ระบุได้ถึงตัวบุคคล ดังนั้นต้องไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล เช่น บัตรประชาชน อีเมล วันเดือนปีเกิด ที่อยู่ และข้อมูลบัตรเครดิต รวมทั้งต้องปกปิดข้อมูลดังกล่าวกับบุคคลที่ไม่รู้จัก และไม่นำขึ้นบน Social Media ซึ่งทำให้คนทั่วไปเข้าถึงได้
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมิจฉาชีพได้เปลี่ยนกลโกงให้เข้าถึงประชาชนได้ง่ายขึ้น อีกทั้งใช้ชื่อหน่วยงานภาครัฐที่มีความน่าเชื่อถือมาหลอกกลวงให้เชื่อใจ ประชาชนจึงต้องระมัดระวังตัวอยู่ตลอดเวลา และรู้เท่าทันเล่ห์เหลี่ยม เพื่อจะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อและสูญเสียทรัพย์สิน
นอกจากนี้ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กำลังรวบรวมหลักฐานเพื่อดำเนินคดีเอาผิดกับมิจฉาชีพ ที่ได้แอบอ้างชื่อและปลอมโลโก้ของหน่วยงาน ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่และยอมไม่ได้ จึงต้องดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพราะสร้างความเสียหายกับธุรกิจและประชาชน ทั้งนี้ หากมีข้อสงสัยหรือศึกษาข้อมูลอื่นๆ เพิ่มเติม สามารถติดต่อสอบถามได้ที่สายด่วน 1570 หรือ เว็บไซต์ www.dbd.go.th
ภาพจาก กรมพัฒนาธุรกิจการค้า
ภาพจาก AFP