กทม.จ่อประกาศพื้นที่ 6 แขวงในเขตลาดกระบัง เป็นพื้นที่ประสบสาธารณภัย
กทม.เตรียมประกาศให้พื้นที่ 6 แขวงในเขตลาดกระบัง ประกอบด้วย แขวงลาดกระบัง แขวงคลองสามประเวศ แขวงคลองสองต้นนุ่น แขวงลำปลาทิว แขวงทับยาว และ แขวงขุมทอง เป็นพื้นที่ประสบสาธารณภัย
กทม.เตรียมประกาศให้พื้นที่ 6 แขวงในเขตลาดกระบัง ประกอบด้วย แขวงลาดกระบัง แขวงคลองสามประเวศ แขวงคลองสองต้นนุ่น แขวงลำปลาทิว แขวงทับยาว และ แขวงขุมทอง เป็นพื้นที่ประสบสาธารณภัย
วันนี้ (15 ก.ย.65) ด้าน น.ส.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กรุงเทพมหานคร เตรียมประกาศให้พื้นที่ 6 แขวงในเขตลาดกระบัง ประกอบด้วย แขวงลาดกระบัง แขวงคลองสามประเวศ แขวงคลองสองต้นนุ่น แขวงลำปลาทิว แขวงทับยาว และ แขวงขุมทอง เป็นพื้นที่ประสบสาธารณภัย
เพื่อให้สามารถเสริมความช่วยเหลือประชาชนได้เพิ่มมากกว่าข้อเทศบัญญัติของ กทม. โดยทุกพื้นที่จะได้รับการช่วยเหลือและเยียวยาตามหลักเกณฑ์ที่เท่าเทียมกัน
ทั้งนี้ การประกาศให้เป็นพื้นที่ประสบสาธารณภัยไม่ได้เพื่อให้ประชาชนตื่นตระหนก แต่เมื่อประกาศแล้วกรุงเทพมหานครสามารถขอความช่วยเหลือเพิ่มเติมจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย เพื่อเยียวยาเพิ่มเติมในหมวดต่างๆ น่าจะมีการพิจารณาภายในวันนี้หรือพรุ่งนี้ การประกาศหรือไม่ประกาศไม่ได้ทำให้ใครได้มากกว่ากัน
สำหรับการเตรียมความพร้อมเกี่ยวกับเครื่องมือในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมจากทุกภาคส่วนอย่างเต็มกำลัง ได้แก่ เครื่องผลักดันน้ำของกองทัพเรือ, เครื่องสูบน้ำของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) และกรมชลประทาน, การขุดลอกคูคลอง, การสร้างทำนบกั้นน้ำ โดยจะกระจายอยู่ในพื้นที่เสี่ยง
ส่วนการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมนั้น กทม.จะประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมชลประทาน กรมอุตุนิยมวิทยา เพื่อนำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์ในการเตรียมการช่วยเหลือล่วงหน้าก่อนที่ฝนจะตก และเมื่อฝนตกลงมาแล้วก็จะมีการจัดตั้งกองอำนวยการช่วยเหลือที่สำนักงานเขตแต่ละแห่ง เช่น การแจกจ่ายอาหารและยา การตั้งศูนย์พักคอย ส่วนมาตรการเยียวยาอยู่ระหว่างการจัดเก็บข้อมูล
"กระบวนการช่วยเหลือ บางเรื่องบางอย่างที่ทำช้าก็พยายามเร่งให้เร็วขึ้น โดยใช้งบประมาณเหลือจ่ายที่มีอยู่" น.ส.ทวิดา กล่าว
ที่ผ่านมา กทม.ได้ดำเนินการมาตรการรองรับน้ำท่วม เช่น การขุดลอกคูคลองมาตั้งแต่เดือน มิ.ย.65 โดยบูรณการร่วมกับภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน และพยายามที่จะแก้ไขปัญหาข้อติดขัด
ขณะที่ นายขจิต ชัชวานิชย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมามีปริมาณฝนในพื้นที่ กทม.ราว 193 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) โดยมีพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วม 2 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มพื้นที่เขตหลักสี่ เขตดอนเมือง และเขตบางเขน โดยปริมาณน้ำในคลองเปรมประชากรมีระดับสูงสุด 1.56 เมตร ปัจจุบันระดับน้ำลดลงมาอยู่ที่ 0.78 เมตร
ส่วนในพื้นที่เขตบางเขนที่มีน้ำท่วมในซอยฝั่งซ้ายมือ ขณะนี้ระดับน้ำลดลงหมดแล้ว คาดการณ์ว่าหากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่มเติม สถานการณ์ในพื้นที่เขตบางเขนจะกลับสู่ภาวะปกติภายใน 2-3 วัน ส่วนพื้นที่เขตหลักสี่และเขตดอนเมืองน่าจะกลับเข้าสู่ใกล้ระดับปกติแล้ว
ส่วนที่กำลังมีปัญหาอยู่ในขณะนี้คือ 2.กลุ่มพื้นที่เขตประเวศ เขตลาดกระบัง เขตสวนหลวง เขตหนองจอก ระดับน้ำลดลงไป 50 เซนติเมตร จากระดับที่เคยสูงสุด ทำให้สถานการณ์ดีขึ้น
โดยในช่วงแรกเกิดปัญหาไม่สามารถสูบน้ำออกไปทางอำเภอแปดริ้วได้ แต่ขณะนี้ได้ดำเนินการลดปริมาณ 3 ทาง คือ 1.กรมชลประทานได้เดินเครื่องสูบน้ำจำนวน 5 เครื่อง ช่วยลดปริมาณน้ำจากเขตหนองจอกที่จะลงมาที่เขตประเวศ
2.เปิดประตูระบายน้ำลาดกระบัง และประตูระบายน้ำกระทุ่มเสือปลา ซึ่งหากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่มเติม น้ำจะลดลงภายใน 7 วัน โดยได้รับความร่วมมือจากกองทัพบกและกองทัพเรือจัดหาเครื่องผลักดันน้ำจำนวน 18 เครื่อง และเครื่องสูบน้ำจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)
3.การผันน้ำผ่านคลองแสนแสบ
แม้สถานการณ์จะดีขึ้น แต่พบว่าร่องความกดอากาศต่ำที่พาดผ่าน กทม.ส่งผลให้เกิดฝนตกเมื่อช่วง 3-4 วันก่อนได้เลื่อนขึ้นไปตอนเหนือแถวจังหวัดหนองคาย ซึ่ง กทม.ร่วมกับภาคีเครือข่าย ได้เตรียมความพร้อมด้วยการพร่องน้ำไว้รองรับฝนระลอกใหม่
สำหรับปริมาณน้ำเหนือนั้นทางกรมชลประทานดูแลรับผิดชอบอยู่ ซึ่งขณะนี้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยายังไม่มีปัญหา และได้สั่งการให้ผู้อำนวยการเขต 17 เขตที่อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มระดับกระสอบทรายในบริเวณฟันหลอริมฝั่งแม่น้ำให้เต็มกำลัง.
ภาพปกโดย TNN Online