APEC 2022 อนุทิน เผย ผู้นำหลายประเทศชื่นชมไทยปชช.ให้ความร่วมมือสวมแมสก์
อนุทิน แถลงผลความสำเร็จการประชุมระดับสูงเอเปคว่าด้วยสาธารณสุขและเศรษฐกิจครั้งที่ 12 ผู้นำหลายประเทศชื่นชมประชาชนให้ความร่วมมือการสวมใส่หน้ากากอนามัย
ที่โรงแรมมิลเลนเนียม ฮิลตัน กรุงเทพมหานคร นาย อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ร่วมประชุม APEC Hight-level Meeting on heath and the economy 2022 วันสุดท้าย ที่กระทรวงสาธารณสุขเป็นเจ้าภาพ
ซึ่งประเด็นที่น่าสนใจในวันนี้ ยังคงเป็นกรอบการพูดคุยในเรื่องด้านสุขภาพที่สอดคล้องกับเศรษฐกิจการลงทุนต่างๆ และการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยนำการส่งเสริมสุขภาพเข้ามาเป็นส่วนพัฒนา นอกจากนี้ยังมีพูดคุย เรื่อง เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อสุขภาพ มาใช้ทางการแพทย์ และระบบหลักประกันสุขภาพ รวมถึงยังมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลในการพัฒนาวัคซีนโรคต่างๆนอกเหนือจากวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่สำคัญในวันนี้แต่ละประเทศ ยังได้มีการพูดถึงการรับมือโรคอุบัติใหม่ในอนาคตที่อาจจะเกิดขึ้น
ภายหลังการประชุม นายอนุทินได้แถลงความสำเร็จการประชุมระดับสูงเอเปคว่าด้วยสาธารณสุขและเศรษฐกิจครั้งที่ 12 และการประชุมคณะทำงานด้านสุขภาพของเอเปคครั้งที่ 2 ว่า การประชุมในครั้งนี้มีรัฐมนตรีสาธารณสุข และเจ้าหน้าที่ระดับสูงจากเขตเศรษฐกิจเอเปคเข้าร่วมประชุมถึง 20 เขตเศรษฐกิจ และมีผู้นำระดับสูงขององค์การระหว่างประเทศ รวมถึงข้าราชการระดับสูงและภาคเอกชน ร่วมประชุมรวมทั้งสิ้นกว่า 150 คน ซึ่งมากกว่าทุกครั้งที่เคยจัดมา ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก
เน้นการ เปิดกว้างสร้างสัมพันธ์กับภาคี เชื่อมโยงกันกับโลกสู่สมดุลระหว่างสาธารณสุขและเศรษฐกิจซึ่งการเป็นเจ้าภาพจัดประชุมเอเปค 20 จะมีเพียงหนึ่งครั้ง กระทรวงสาธารณสุขไทยจะมีโอกาสเป็นเจ้าภาพอีกครั้ง ในปี 2042
การประชุมครั้งนี้ เป็นโอกาสดีที่จะได้เชิญสมาชิกเขตเศรษฐกิจให้มาร่วมลงทุนสร้างความมั่นคงด้านสุขภาพ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการระบาดใหญ่ในอนาคต ผ่านการลงทุนเรื่องระบบสุขภาพ การสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า รวมทั้งการเร่งพัฒนาและผลิตวัคซีน
สำหรับมติที่สำคัญในการประชุม เช่น ที่มุ่งสร้างสมดุลด้านสุขภาพและเศรษฐกิจ สนับสนุนการลงทุนเพื่อสร้างความเข้มแข็งของระบบสุขภาพและหลักประกันสุขภาพ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างความมั่นคงด้านสุขภาพ การเปิดพรมแดน สร้างการเดินทางที่ปลอดภัยโดยไม่กระทบต่อการป้องกันโควิด
นอกจากนี้ ให้เขตเศรษฐกิจเอเปค ร่วมมือกับภาคเอกชนมากยิ่งขึ้น โดยจะมีการแบ่งปันถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตวัคซีนป้องกันโควิด 19 และวัคซีนอื่นๆอย่างเท่าเทียมกัน
ส่วนกรณีที่ต่างประเทศเริ่มให้ถอดหน้ากากอนามัย และประเทศไทยจะเริ่มถอดหน้ากากอนามัย ได้หรือยัง นายอนุทิน ระบุว่า ผู้นำต่างประเทศชื่นชมประเทศไทยที่ยังให้ความร่วมมือใส่หน้ากากอนามัย ซึ่งการใส่หน้ากากอนามัยในประเทศไทย ไม่ได้มีการบังคับแต่ให้ประชาชนพิจารณาตามความเสี่ยงของตนเอง
ขณะที้กรณีที่ต่างประเทศ เช่น ประเทศสิงคโปร์ เตรียมที่จะผ่อนคลายให้ผู้เดินทางเข้าประเทศไม่ต้องแสดงผลการฉีดวัคซีน ส่วนมาตรการของประเทศไทยยังกำหนดให้ผู้เดินทางเข้าประเทศแสดงผลการฉีดวัคซีนอยู่ แต่หากมีการเปลี่ยนมาตรการต้องรอการพิจารณาอีกครั้ง
ส่วนความคืบหน้าวัคซีนโควิด-19 รุ่นที่ 2 นายอนุทิน ระบุว่า ในที่ประชุมเอเปค ได้มีการหารือถึงการพัฒนาวัคซีนโควิด-19 รุ่นต่อไป ขอให้นึกถึงกันและกันมากคนทั้งโลกต้องช่วยกันให้ทีการแบ่งปันวัคซีน เพื่อลดการเกิดการระบาดโควิด-19
สำหรับความคืบหน้า วัคซีนไฟเซอร์ ฝาสีม่วง-แดง ของเด็กเล็ก อายุ 6 เดือน - 5 ปี นายอนุทิน ระบุว่า อยู่ระหว่างการเจรจา กับผู้ผลิตในการเปลี่ยนสัญญา ในการนำเข้าวัคซีนเด็กเล็ก 3 ล้านโดส ในโควต้าเดิมที่สั่งซื้อไว้แล้ว โดยจะมีการนำเข้าครม. เพื่อพิจารณาการเปลี่ยนสัญญาก่อนคาดว่าจะได้วัคซีนไฟเซอร์สำหรับเด็กเล็กเร็วๆนี้
ภาพจาก AFP/TNN ช่อง 16