"ฝีดาษลิง" รายที่ 2 ของไทย เปิดไทม์ไลน์ก่อนพบเชื้อ มีผู้สัมผัสเสี่ยง 10 ราย!
เปิดไทม์ไลน์ ผู้ป่วย "ฝีดาษลิง" รายที่ 2 ของไทยพบในกรุงเทพฯ มีสัมผัสเสี่ยง 10 ราย ให้สังเกตอาการ 21 วัน
จากกรณี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) เปิดเผยว่า ทางกระทรวงสาธารณสุข โดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้ตรวจทางห้องปฏิบัติการ(แล็บ) ยืนยันผู้ป่วยฝีดาษลิงรายที่ 2 จากโรงพยาบาล(รพ.)วชิรพยาบาล กรุงเทพมหานคร เป็นชายไทย อายุ 47 ปี มีประวัติมีเพศสัมพันธ์กับชาวต่างชาติแบบรักร่วมเพศ
ไทม์ไลน์ ผู้ป่วยฝีดาษลิง ชายไทย อายุ 47 ปี รายที่ 2 ของไทย
มีอาการสงสัยป่วย เมื่อวันที่ 12 ก.ค.65 จากนั้น 2 วัน เริ่มมีไข้ ปวดตามตัว ต่อมน้ำเหลืองโต และ 1 สัปดาห์ต่อมามีผื่นที่อวัยวะเพศ ลำตัว หน้า แขนขา จึงมาตรวจที่รพ. ขณะนี้รับไว้ในรพ.และติดตามผู้สัมผัสมาตรวจและเฝ้าสังเกตอาการต่อให้ครบ 21 วัน
ด้าน นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับชายรายดังกล่าว มีประวัติอาศัยอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งทางสถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง(สปคม.) โดยกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้เข้าไปสอบสวนโรคแล้วพบว่ามีผู้สัมผัสร่วมบ้าน 10 ราย ขณะนี้อยู่ในระหว่างการตรวจหาเชื้อ และให้สังเกตอาการ 21 วัน
วิธีป้องกันโรคฝีดาษลิง
ทั้งนี้ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ หรือ สสส. ได้เคยบอก การดูเเลป้องกันตนเองอย่างไร ให้ห่างไกลจากโรคฝีดาษลิง โดยโรคฝีดาษลิง (Monkeyopox) ดังนี้
1.หลีกเลี่ยงสัมผัสโดยตรงกับเลือด สารคัดหลั่ง และตุ่มหนองของสัตว์
2.ทานเนื้อสัตว์ปรุงสุก
3.หมั่นล้างมือบ่อย ๆ ด้วยแอลกอฮอล์ 70% ขึ้นไป
4.ไม่ควรทานเนื้อสัตว์ป่าหรือนำสัตว์ป่ามาเลี้ยง
5.สวมหน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อผ่านละอองฝอยขนาดใหญ่
ฝีดาษลิง แบ่งเป็น 4 ระยะได้แก่
1.ระยะฟักตัว จะไม่แสดงอาการช่วง 5 – 44 วันหลังจากได้รับเชื้อ
2.ระยะไข้ 1 – 4 วัน มีอาการปวดหัว เจ็บคอ หนาวสั่น อ่อนเพลีย และต่อมน้ำเหลือง
3.ระยะผื่น 1 – 2 สัปดาห์ จะเริ่มจากผื่นแบน ผื่นนูน ผื่นมีน้ำใสใต้ผื่น โดยผื่นมักจะขึ้นที่บริเวณใบหน้า แขน และขา มากกว่าที่ลำตัว โดยลักษณะของผื่นจะเริ่มจากจุดแดง ๆ กลม ๆ หลังจากนั้นผื่นจะกลายเป็น ตุ่มน้ำใส และกลายเป็นตุ่มหนอง และกลายเป็นสะเก็ด เป็นช่วงระยะเวลาที่สามารถแพร่เชื้อได้สูงสุด
4.ระยะฟื้นตัว ใช้เวลาหลายวันจนถึงหลายสัปดาห์
ภาพจาก AFP