เปิดมาตรการยกเว้นภาษี Capital Gain Tax ช่วยดึงดูดการลงทุน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลฯ ชี้มาตรการยกเว้นภาษี หรือ Capital Gain Tax จะช่วยดึงดูดการลงทุน ทำให้สตาร์ทอัพสามารถระดมทุนได้เพิ่มขึ้น เพิ่มโอกาสการเติบโตของดิจิทัลสตาร์ทอัพไทย พร้อมก้าวสู่ระดับสากล อีกทั้งช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับภาคเศรษฐกิจของไทย และเป็นกุญแจสำคัญในการเปลี่ยนระบบเศรษฐกิจแบบดั้งเดิมสู่เศรษฐกิจดิจิทัลมูลค่าสูงต่อไป
ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติมาตรการยกเว้นภาษี หรือ Capital Gain Tax เป็นเวลา 10 ปีแก่นักลงทุนไทยและต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในดิจิทัลสตาร์ทอัพไทยภายใต้ 12 อุตสาหกรรมเป้าหมาย โดยจะต้องถือหุ้นไม่น้อยกว่า 24 เดือนตามที่ กระทรวงการคลัง โดย กรมสรรพากร เสนอ ซึ่งพระราชกฤษฎีกา ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ๗๕๐) พศ. ๒๕๖๕ (มาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการระดมทุนในวิสาหกิจเริ่มต้น) มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายนที่ผ่านมานั้น
นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เปิดเผยว่า พระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 750) พ.ศ. 2565 การยกเว้นภาษีเงินได้ของบุคคลธรรมดา และบริษัทหรือห้างหุ้นส่วน นิติบุคคลในบางกรณีซึ่งในที่นี้เราเรียกว่าการยกเว้นภาษี Capital Gain Tax ซึ่งในอดีตนักธุรกิจที่ลงทุนในบริษัท ห้างหุ้นส่วนต่างๆ เมื่อมีการขายหุ้นแล้วหุ้นมีกำไรก็ต้องมีการเสียภาษี Capital Gain 15 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งอันนี้เป็นภาระทำให้การลงทุนในธุรกิจสตาร์ทอัพเกิดขึ้นได้ยาก เพราะไม่อยากเสียภาษีตัวนี้กัน ก็หนีไปลงทุนที่ต่างประเทศทำให้การลงทุนในด้านสตาร์ทอัพในประเทศไทยไม่เติบโตเท่าที่ควร ในปัจจุบันจึงได้มีการออกพระราชกฤษฎีกายกเว้นภาษี Capital Gain Tax ซึ่งอันนี้เป็นภาษีสำคัญซึ่งทำให้ส่งผลดีต่อสตาร์ทอัพสัญชาติไทย นักลงทุนก็จะมาตั้งกองทุนที่เรียกว่า Venture Capital เป็นธุรกิจร่วมลงทุนในธุรกิจสตาร์ทอัพทางด้านเทคโนโลยีสมัยใหม่และเทคโนโลยีดิจิทัล ซึ่งจะเป็นธุรกิจสำคัญที่จะเสริมสร้างเศรษฐกิจให้เติบโต และสร้างงานสร้างรายได้ให้กับพี่น้องประชาชนในประเทศไทยต่อไป ซึ่งคาดว่าจากการประเมินของสภาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ทั้งนี้มีการประเมินจากสภาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งประเทศไทยว่า มาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการระดมทุนในสตาร์ทอัพจะกระตุ้นให้เกิดการลงทุนในสตาร์ทอัพไทยมากกว่า 3.2 แสนล้านบาทภายในปี 2569 เกิดการจ้างงานเพิ่มกว่า 4 แสนตำแหน่ง และก่อให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจไม่น้อยกว่า 7.9 แสนล้านบาท ซึ่งจะเป็นประโยชน์ที่เห็นได้ชัดจากการยกเว้นภาษี Capital Gain Tax
มาตรการยกเว้นภาษี Capital Gain Tax โดยความร่วมมือระหว่าง กรมสรรพากร กระทรวงการคลัง สภาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ และ ดีป้า จะขึ้นทะเบียนกำหนดกฎเกณฑ์ว่า บริษัท ลักษณะไหนที่เป็นสตาร์ทอัพ ที่จะได้รับการยกเว้นภาษี Capital Gain Tax เมื่อเรามีความชัดเจนเรื่องนี้มากขึ้น ต่อไปเราก็จะเหลือการลงทุน คณะลงทุนไทยและต่างชาติ ผ่านธุรกิจเงินร่วมลงทุน ที่เรียกว่า Venture Capital : VC พอเงินลงทุนเหล่านี้เข้ามา ก็จะทำให้สตาร์ทอัพของสัญชาติไทยของเรามีการเติบโต มีเงินลงทุน สามารถพัฒนาธุรกิจให้แข็งแกร่งต่อไปได้ในอนาคต ซึ่งก็จะสร้างความเข้มแข็งภาคเศรษฐกิจในประเทศเราต่อไป
ภาพ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส)