TNN จริงหรือไม่? ใส่ผ้าอนามัยนานๆจะทำให้เป็น “มะเร็งปากมดลูก”

TNN

สังคม

จริงหรือไม่? ใส่ผ้าอนามัยนานๆจะทำให้เป็น “มะเร็งปากมดลูก”

จริงหรือไม่? ใส่ผ้าอนามัยนานๆจะทำให้เป็น “มะเร็งปากมดลูก”

สื่อออนไลน์แชร์ข้อมูลการใส่ผ้าอนามัยนานๆ ทำให้เป็นโรคมะเร็งปากมดลูก เป็นเรื่องจริงหรือไม่?

วันนี้ ( 5 มิ.ย. 65 )ตามที่ได้มีบทความทางสื่อออนไลน์เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับประเด็นเรื่อง "ใส่ผ้าอนามัยนานๆ ทำให้เป็นโรคมะเร็งปากมดลูก" ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พบว่าข้อมูลดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ

กรณีคำเตือนหากใส่ผ้าอนามัยนานอาจทำให้เป็นโรคมะเร็งปากมดลูก ทางสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ชี้แจงว่าเป็นความเชื่อที่ผิดโดยสิ้นเชิง ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลวิชาการพบว่าการใส่ผ้าอนามัยนาน ๆ ไม่เกี่ยวข้องกับการเกิดโรคมะเร็งปากมดลูก เนื่องจากมะเร็งปากมดลูกเกิดจากการติดเชื้อ Human Papilloma Virus (HPV) และส่วนใหญ่หรือเกือบทั้งหมดมาจากเพศสัมพันธ์ผ่านการสัมผัสผิวหรือเยื่อบุของอวัยวะเพศ ผู้ที่มีคู่นอนหลายคนจึงมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น รวมไปถึงการสูบบุหรี่ที่ทำให้ภูมิต้านทานของร่างกายลดลง เป็นต้น

ส่วนการใส่ผ้าอนามัยแผ่นเดิมเป็นเวลานาน ๆ โดยไม่เปลี่ยนแผ่นใหม่ อาจส่งผลให้เกิดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อแบคทีเรียหรือเกิดเชื้อรา ทำให้มีอาการระคายเคือง อาการคัน หรือเชื้อเหล่านี้อาจแพร่ไปยังทางเดินปัสสาวะทำให้เกิดโรคอื่น ๆ ตามมา ทั้งนี้ การใช้ผ้าอนามัยแผ่นเดียวนาน ๆ อาจทำให้เกิดการอับชื้น ไม่สะอาด ดังนั้นเราจึงควรเปลี่ยนผ้าอนามัยทุกๆ 4-6 ชั่วโมง หรือตามปริมาณประจำเดือนที่มีในวันมามากอาจจะเปลี่ยนบ่อยกว่าวันที่กำลังจะหมด

ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากสถาบันมะเร็งแห่งชาติ สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ http://thaicancernews.nci.go.th/_v2/ หรือ www.nci.go.th หรือโทร. 02-202-6800

บทสรุปของเรื่องนี้คือ : การใส่ผ้าอนามัยนาน  ไม่เกี่ยวข้องกับการเกิดโรคมะเร็งปากมดลูก เนื่องจากมะเร็งปากมดลูกเกิดจากการติดเชื้อ HPV และส่วนใหญ่หรือเกือบทั้งหมดมาจากเพศสัมพันธ์ผ่านการสัมผัสผิวหรือเยื่อบุของอวัยวะเพศ

จริงหรือไม่? ใส่ผ้าอนามัยนานๆจะทำให้เป็น “มะเร็งปากมดลูก”

ข้อมูลจาก  : ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย

ภาพจาก : AFP

ข่าวแนะนำ