“โจ นูโว” ร้อง DE ถูกปลอมเฟซบุ๊ก วอนคนปลอมหยุดการกระทำ
“นักร้องดัง “โจ นูโว” เข้าร้องเรียนกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจเเละสังคมหลังถูกปลอมเฟซบุ๊ก มาหลายปี เจ้าตัวยืนยันมีเฟซบุ๊กส่วนตัวแค่บัญชีเดียว และไม่ได้เปิดสาธารณะ ดีอีเอส เร่งประสานตำรวจตามหามืออวตาร บทลงโทษตาม พ.ร.บ.คอมพ์ฯ คุกสูงสุด 5 ปี
นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงดิจิทัลฯ ได้รับเรื่องร้องเรียนจาก “โจ นูโว” ว่าได้รับความเสียหายจากการที่มีเฟซบุ๊กปลอมในชื่อ โจ นูโว และมีการโพสต์แสดงความคิดเห็นต่างๆ โดยที่ตัวจริงไม่รู้เรื่อง จึงต้องการให้กระทรวงฯ ช่วยดำเนินการปิดกั้นเฟซบุ๊กปลอมเหล่านั้น
ทั้งนี้ กระทรวงดิจิทัลฯ ดำเนินการประสานไปยังเจ้าของแพลตฟอร์ม Facebook ให้ปิดกั้นบัญชีเฟซบุ๊กปลอมเหล่านั้น เพราะเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง อีกทั้งได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ติดตามสืบสวนค้นหาตัวคนผิดที่สร้างบัญชีปลอมดังกล่าว เพราะสร้างความเสียหายให้กับเจ้าของบัญชีตัวจริง โดยจะดำเนินคดีถึงที่สุด ซึ่งตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ กำหนดโทษจำคุกไว้สูงสุด 5 ปี
“ขอฝากเตือนไปยังดารานักแสดงนักร้องทุกคนที่พบเพจปลอม เฟซบุ๊กปลอมที่มาใช้ชื่อ ใช้รูปของเราทำให้เกิดความเสียหาย อยากให้รีบดำเนินการแจ้งมาที่กระทรวงฯ หรือมีช่องทางออนไลน์ด้วยในระบบของเรา หรือจะแจ้งความที่เจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยก็ได้ เพื่อรีบปิดกั้นก่อนที่จะกระทบต่อชื่อเสียงของดารานักแสดงด้วย” นายชัยวุฒิกล่าว
ด้านโจ นูโว กล่าวว่า รู้สึกท้อใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะที่ผ่านมา ถูกสังคมตั้งคำถาม ตลอดเวลา เเล้วตนเองต้องเป็นฝ่ายตอบ ถึงขนาด จ้างนูโว ขอไม่จ้างโจ ใครที่เกลียดผม ลงทุนทำขนาดนี้ มาคุยกันดีกว่า มาเป็นเพื่อนฝูงกันดีกว่า เราไม่ได้มีอะไรต่อกัน ผมไม่เคยทำอะไรให้คุณ คุณก็อย่าทำอะไรผมเลย อยู่กันอย่างสงบ ชีวิตผมก็ไม่ได้ดีไปกว่านี้ วอนว่าอย่าทำเลย วันนี้เลย ตัดสินใจ มาร้องที่กระทรวงดิจิตัลเพื่อเศรษฐกิจเเละสังคม พร้อมทั้งระบุว่า บัญชีเฟซบุ๊กส่วนตัวของจริงคือ www.facebook.com/khunjirayut แต่พบช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมามีผู้สร้างบัญชีปลอมขึ้นมา ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ และของปลอมเขียนว่าของจริงด้วย เเละล่าสุด
“แอคเคาน์ปลอม ก็มี การโพสต์ว่าคุณชัชชาติซึ่งส่วนตัวไม่รู้เรื่องเลย เเละไม่ได้ทำ ร่วมถึงก็ถูกนำไป ลงความเห็นการเมืองตลอด จนทำให้ได้รับความเสียหาย คือคนที่ไม่เข้าใจเขาก็จะรังเกียจเรา วันนี้เลยตัดสินใจร้องขอให้ทางการช่วยเหลือ”
ที่มาข้อมูลและภาพ / กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม