วันวิสาขบูชา 2565 แนะ 4 วิธีทำบุญอย่างไรให้ได้บุญ
วันวิสาขบูชา 2565 เตรียมไหว้พระ-ทำบุญ เสริมสิริมงคล อย.แนะ 4 วิธีทำบุญอย่างไรให้ได้บุญ และ 1 ข้อที่ไม่ควรทำ
วันนี้ ( 14 พ.ค. 65 ) เนื่องในโอกาส วันวิสาขบูชา ปี 2565 ซึ่งเป็นวันสำคัญทางพุทธศาสนาที่พุทธศาสนิกชนมักนิยมไปไหว้พระ ทำบุญ ถวายสังฆทาน เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) จึงขอแนะนำชาวพุทธ นพ.วิทิต สฤษฎีชัยกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ได้ออกคำแนะนำ ในการจัดชุดถวายสังฆทาน โดยคำนึงถึง 5 เคล็ดลับ “4 ควร 1 ไม่” เพื่อความปลอดภัย และสุขภาพที่ดีของภิกษุสงฆ์ ดังนี้
4 ควรทำ
1. สิ่งของที่จะนำไปจัดชุดถวายสังฆทานควรเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อพระภิกษุ เช่น อาหาร ยาสามัญประจำบ้าน และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ เช่น สบู่ แชมพู ยาสีฟัน น้ำยาล้างจาน และผงซักฟอก แต่ระวังอย่านำผลิตภัณฑ์อาหาร หรือผลิตภัณฑ์ยา ใส่ปะปนกับผลิตภัณฑ์อื่น เพราะผลิตภัณฑ์อาหารหรือผลิตภัณฑ์ยา อาจปนเปื้อนสารเคมีหรือดูดซับกลิ่น ไม่เหมาะสำหรับรับประทาน หรืออาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพของพระภิกษุได้
2. ควรเป็นผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัย เช่น ผลิตภัณฑ์ต้องได้รับอนุญาตจาก อย. โดยผลิตภัณฑ์อาหารควรแสดงเลขสารบบอาหารบนฉลาก รวมทั้งบรรจุในภาชนะที่สะอาด และสามารถป้องกันการปนเปื้อนได้
3. ควรเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีประโยชน์ ดีต่อสุขภาพ เช่น ผลิตภัณฑ์อาหารที่ได้รับสัญลักษณ์โภชนาการ "ทางเลือกสุขภาพ" เพื่อช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ที่เกิดจากการบริโภคอาหารรสหวาน มัน เค็ม เกินความเหมาะสม
4. ควรเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีการแสดงฉลากถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อให้ผู้บริโภคได้ทราบข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ เช่น ส่วนประกอบ ผู้ผลิต/นำเข้า วันเดือนปีที่ผลิต วันหมดอายุ วิธีการเก็บรักษา วิธีการบริโภค ข้อมูลโภชนาการ และข้อมูลสำหรับผู้แพ้อาหาร
1 ไม่ควร
- ไม่ควรนำผลิตภัณฑ์หมดอายุ หรือใกล้หมดอายุมาจัดชุดสังฆทาน เนื่องจากอาจเป็นอันตรายต่อพระภิกษุ หรือพระภิกษุอาจบริโภคไม่ทัน เช่น ควรเลือกผลิตภัณฑ์อาหารที่มีวันหมดอายุไม่น้อยกว่า 6 เดือน กรณีอาหารกระป๋อง ควรดูลักษณะกระป๋อง ต้องไม่บุบบี้ หรือโป่งพอง หรือมีรอยรั่ว และไม่เป็นสนิม
รองเลขาธิการฯ กล่าวในตอนท้ายว่า หากพบเห็นร้านจำหน่ายใดที่บรรจุผลิตภัณฑ์อาหารหรือยาหมดอายุหรือใกล้หมดอายุในชุดสังฆทาน เกรงว่าจะเป็นอันตรายต่อพระภิกษุ ขอได้โปรดแจ้งร้องเรียนได้ที่สายด่วน อย. 1556 หรือผ่าน Line@FDAThai, Facebook : FDAThai หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ
ข้อมูลจาก : คณะกรรมการอาหารและยา
ภาพจาก : AFP