TNN จริงหรือไม่? เป็นไข้ห้ามรับประทาน “ส้ม” อาจทำให้มีอาการหนักถึงชัก!

TNN

สังคม

จริงหรือไม่? เป็นไข้ห้ามรับประทาน “ส้ม” อาจทำให้มีอาการหนักถึงชัก!

จริงหรือไม่? เป็นไข้ห้ามรับประทาน “ส้ม” อาจทำให้มีอาการหนักถึงชัก!

ไขข้อสงสัย? หากป่วยเป็นไข้ ห้ามรับประทาน “ส้ม” ทำให้มีอาการหนักไข้สูงและอาจจะชักได้ เป็นเรื่องจริงหรือไม่

วันนี้ ( 2 พ.ค. 65 )ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมประเทศไทย ได้ชี้แจงข้อสงสัย ตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูลในประเด็นสุขภาพเรื่อง หากเป็นไข้ ห้ามรับประทานส้ม ทำให้ไข้สูงและอาจจะชักได้   ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับสำนักโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลบิดเบือนฃ

จากที่มีการเผยแพร่ข้อความเกี่ยวกับประเด็นสุขภาพระบุผู้ที่เป็นไข้ ห้ามรับประทานส้มจะทำให้ไข้ไม่ลดเพราะส้มมีโพแทสเซียมมีผู้ป่วยจำนวนมากที่ผมดูแลรักษาปรึกษาเกิดอาการไข้สูง มีบางรายเกิดอาการชักสอบประวัติการกินทุกชนิดทางสำนักโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ได้ชี้แจงว่าเมื่อมีไข้น้ำช่วยให้อุณหภูมิในร่างกายลดลงส้ม (1ผล:100 ก.) มีน้ำเป็นองค์ประกอบกว่าร้อยละ 90 วิตามินซีจากส้มช่วยต้านการอักเสบส้มมีโพแทสเซียมปานกลางถึงสูงถ้ากินปกติวันละ 2-3 ผล ไม่ส่งผลเสีย 

แต่อาหารที่มีโพแทสเซียมสูง เช่น ถั่ว นม แครอท มะเขือเทศ หน่อไม้ฝรั่ง คะน้า ทุเรียน กล้วย ลำไย หากกินมากเกินไปอาจส่งผลให้อุณหภูมิในร่างกายสูงขึ้นระหว่างที่เป็นไข้ได้ส้มมีน้ำตาลค่อนข้างสูงจึงควรกินแต่พอดี

ดังนั้นข้อมูลที่มีการโพสต์ และแชร์ต่อในขณะนี้ จึงเป็นข้อมูลบิดเบือน ขอความร่วมมือประชาชน ไม่แชร์ ไม่ส่งต่อข่าวดังกล่าว เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากสำนักโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข สามารถติดตามข้อมูลได้ที่เว็บไซต์ https://nutrition2.anamai.moph.go.th/th/  หรือโทร. 02-5904339

บทสรุปของเรื่องนี้คือ : เมื่อมีไข้น้ำช่วยให้อุณหภูมิในร่างกายลดลงส้ม1ผลมีน้ำเป็นองค์ประกอบกว่าร้อยละ 90 วิตามินซีจากส้มช่วยต้านการอักเสบส้มมีโพแทสเซียมปานกลางถึงสูงถ้ากินปกติ วันละ 2-3 ผลไม่ส่งผลเสีย แต่อาหารที่มีโพแทสเซียมสูง หากกินมากเกินไปอาจส่งผลให้อุณหภูมิในร่างกายสูงขึ้นระหว่างที่เป็นไข้ได้ 

หน่วยงานที่ตรวจสอบ : สำนักโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข

จริงหรือไม่? เป็นไข้ห้ามรับประทาน “ส้ม” อาจทำให้มีอาการหนักถึงชัก!


ข้อมูลจาก :  ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมประเทศไทย

ภาพจาก :  AFP

.

ข่าวแนะนำ