สรุปสงกรานต์ 5 วัน เกิดอุบัติเหตุสะสม 1,478 ครั้ง "เชียงใหม่" สูงสุด
ศปถ.เปิดเผยตัวเลขอุบัติเหตุสะสมช่วงสงกรานต์ ช่วง 11-15 เมษายน เกิดอุบัติเหตุรวม 1,478 ครั้ง เสียชีวิตแล้ว 204 ราย บาดเจ็บ 1,452 คน ขณะที่ จ.เชียงใหม่ เกิดอุบัติสูงสุด จำนวน 60 ครั้ง
วันนี้ (16 เม.ย.65) นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร รองปลัดกระทรวงมหาดไทย หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านสาธารณภัยและพัฒนาเมือง ในฐานะประธานการประชุมคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนตลอดทั้งปี ระบุ วันนี้นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ร่วมประชุมฯ ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์จากศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2565 จังหวัดเชียงใหม่
พร้อมเปิดเผย สถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 15 เมษายน 2565 ซึ่งเป็นวันที่ 5 ของการรณรงค์ "ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่อย่างปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ" พบว่า มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นจำนวน 277 ครั้ง ทำให้มีผู้เสียชีวิต 44 ราย และบาดเจ็บ 263 คน
สาเหตุหลักยังคงเป็นเรื่องการขับรถเร็วร้อยละ 39.35 รองลงมาคือดื่มแล้วขับร้อยละ 28.52 ส่วนยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 77.70 รถปิกอัพ 11.87 ซึ่งพฤติกรรมเสี่ยงที่ทำให้บาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุดคือไม่สวมหมวกนิรภัย โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ 16 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด คือ เชียงราย 5 ราย
ทั้งนี้ เมื่อรวมสถิติ 5 วันแรก ระหว่าง 11-15 เมษายน ของการรณรงค์ขับขี่ปลอดภัย พบว่า มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นสะสมรวมกันแล้ว 1,478 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 204 ราย และผู้บาดเจ็บ 1,452 คน ซึ่งจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุดคือเชียงใหม่ จำนวน 60 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ 58 คน ขณะที่ จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด คือ เชียงใหม่ 8 ราย
อย่างไรก็ตาม คาดการณ์ว่าวันนี้ประชาชน จะทยอยเดินทางกลับเข้าสู่กรุงเทพมหานครและจังหวัดเขตเศรษฐกิจ ทำให้มีปริมาณรถหนาแน่นเส้นทางหลักและเส้นทางสายรองที่เชื่อมต่อระหว่างจังหวัด
ศปถ.จึงได้ประสานจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในการเดินทางควบคู่กับมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเข้มข้น จัดเจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจบังคับใช้กฎหมายอย่างต่อเนื่องในเส้นทางสายต่าง ๆ
โดยเฉพาะเส้นทางสายหลัก สายรอง ทางเลี่ยง ทางลัด ทางตรง วิ่งสวนเลน และไม่มีเกาะกลาง พร้อมคุมเข้มผู้ขับขี่ที่มีพฤติกรรมเสี่ยง ทั้งขับรถเร็ว ดื่มแล้วขับ ไม่ใช้อุปกรณ์นิรภัย รวมถึงประเมินความพร้อมของผู้ขับขี่ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุจากการขับรถเร็วและง่วงหลับใน.
ภาพจาก TNN ONLINE