เปิดวิธีรักษา “โรคผมร่วงเป็นหย่อม” ต้องทำอย่างไร
เปิดวิธีการรักษา “โรคผมร่วงเป็นหย่อม” ( Alopecia Areata) ต้องทำอย่างไร พร้อมเผยสาเหตุปัจจัยที่ทำให้เกิดขึ้นเกิดจากอะไรได้บ้าง
จากกรณีข่าวดังระหว่างการประกาศผลรางวัลอคาเดมี่ อวอร์ด หรือ ออสการ์ ครั้งที่ 94 เมื่อนักแสดงชื่อดัง วิลล์ สมิธ (Will Smith) บุกขึ้นเวทีไปตบหน้า ของคริส ร็อค เนื่องจากเขาได้เล่นมุกตลกล้อเลียน ทรงผมของ จาดา พิงคิตต์ สมิท ผู้เป็นภรรยา หลังจากเธอตัดสินใจโกนผมทั้งศีรษะเนื่องจากป่วยเป็น โรคผมร่วงเป็นหย่อม ( Alopecia Areata)
ทั้งนี้นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า อาการนี้ พบได้ในทุกช่วงอายุ มักมีอาการผมร่วงเฉพาะที่ บริเวณผมที่ร่วงมีลักษณะกลม หรือรี อาจมีอาการขนร่วงที่บริเวณอื่นร่วมด้วยเช่น เครา หนวด ขนคิ้ว และขนตามร่างกาย ผู้ป่วยอาจมีอาการมากคือ ผมร่วงหมดทั้งศีรษะ (alopecia totalis) มีขนบริเวณอื่นของร่างกายร่วงจนหมดร่วมด้วย (alopecia universalis) ในผู้ป่วยบางรายที่มีผมร่วงไม่มาก
นอกจากนี้ อาการผมร่วง ยังเกิดได้จากสาเหตุต่อไปนี้
- 1.ความเครียด ความเจ็บป่วยหรือการผ่าตัด การมีไข้เป็นเวลานาน การคลอดบุตร ภาวะเครียดทางจิตใจ การลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว เป็นต้น
- 2.ปัญหาเกี่ยวกับฮอร์โมน ภาวะไทรอยด์ฮอร์โมนสูงหรือต่ำเกินไป
- 3.ยาบางชนิด
- 4.อาการแพ้ยา
- 5.การฉายรังสี
- 6.การติดเชื้อ เช่น การติดเชื้อรา ซิฟิลิส เอชไอวี เริม
- 7.ระบบภูมิคุ้มกันผิดปกติ
- 8.โรคทางผิวหนัง DLE และโรคทางภูมิคุ้มกัน SLE (Systemic and discoid lupus erythematosus)
- 9.ภาวะโลหิตจาง
- 10.เส้นผมถูกดึงรั้งแน่นเกินไป ด้วยการม้วนด้วยที่ม้วนผม การมัดผมหางม้า และการถักผมเปียติดหนังศีรษะ
- 11.การบิดม้วนและดึงผมที่เกิดจากปัญหาทางจิตใจ
- 12.ลักษณะที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม
**นอกจากนี้ประวัติครอบครัวที่มีศีรษะล้านหรือผมร่วง แก่ก่อนวัย (เป็นปัญหาศีรษะล้านของผู้ชายโดยเฉพาะ) การตั้งครรภ์ ความเครียด ภาวะโภชนาการต่ำ ก็ยังเป็น 1 ในสาเหตุอีกด้วย**
สำหรับ โรคผมร่วงเป็นหย่อม ( Alopecia Areata) อธิบดีกรมการแพทย์ ระบุว่า อาการจะหายได้เองแต่มักจะใช้เวลาหลายเดือนหรือเป็นปี ซึ่งต่างจากในผู้ป่วยที่ผมร่วงมากที่มักจะไม่หายเอง โรคนี้อาจมีอาการเป็นๆ หายๆ ได้ ซึ่งการเป็นซ้ำอาจเกิดขึ้นเองหรืออาจเกิดจากการที่ร่างกายได้รับการกระตุ้นจากภาวะการเจ็บป่วยอื่นๆหรือภาวะเครียดจากร่างกายและจิตใจ
การรักษาโรคผมร่วง มีดังต่อไปนี้
1.การใช้ยาหรือแชมพูกำจัดเชื้อรา
- 2.การฉีดสเตียรอยด์
- 3.การปรับเปลี่ยนการดำเนินชีวิต เช่น นุ่มนวลกับผมของคุณมากขึ้น เรียนรู้และฝึกฝนควบคุมความเครียด
- 4.การผ่าตัด
- - การปลูกผม โดยการนำเส้นผมจากด้านหลังและด้านข้างของศีรษะ มาปลูกบนบริเวณที่ศีรษะล้าน
- - การผ่าตัดเคลื่อนย้ายหนังศีรษะ โดยการตัดหนังศีรษะบริเวณที่ล้านออก แล้วดึงหนังศรีษะส่วนที่มีเส้นผมให้เข้ามาอยู่ใกล้กันมากขึ้น
ข้อมูลจาก : โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์/กรมการแพทย์
ภาพจาก : AFP